23 กุมภาพันธ์ 2565
มาตรา 1382
“บุคคลใดครอบครองทรัพย์สินของผู้อื่นไว้โดยความสงบและเปิดเผย ด้วยเจตนาเป็นเจ้าของถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์ได้ครอบครองติดต่อกันเป็นเวลา 10 ปีถ้าเป็นสังหาริมทรัพย์ได้ครอบครองติดต่อกันเป็นเวลา 5 ปี ผู้ครอบครองย่อมได้กรรมสิทธิ์”
สาระสำคัญ
การได้มาซึ่งที่ดินหรือกรรมสิทธิ์ในที่ดินของบุคคลอื่นหรือการ “ครอบครองปรปักษ์” ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 อันถือว่าเป็นการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ในที่ดินโดยทางอื่นนอกจากนิติกรรม โดยหลักเกณฑ์ของการครอบครองปรปักษ์มีดังต่อไปนี้
ครอบครองทรัพย์ของบุคคลอื่น
การครอบครองปรปักษ์นั้น จะมีได้เฉพาะกรณีเป็นการครอบครองทรัพย์ของผู้อื่นเท่านั้น เพราะเป็นการแย่งกรรมสิทธิ์ในทรัพย์ของผู้อื่น
ครอบครองด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ
เนื่องจากเป็นการแย่งกรรมสิทธิ์ในที่ดินของผู้อื่น บุคคลซึ่งครอบครองที่ดินของผู้อื่น จึงจะต้องมีเจตนาเป็นเจ้าของที่ดินนั้นอยู่ด้วย ทั้งนี้ หากเป็นเพียงการดูแลแทน หรือเช่าที่ดิน ก็ไม่อาจอ้างครอบครองปรปักษ์ได้แม้จะครบกำหนดเวลาตามกฎหมายก็ตาม
ครอบครองโดยสงบ
ระหว่างการครอบครองที่ดินของผู้อื่นผู้ครอบครองนั้นไม่ถูกเจ้าของหรือบุคคลอื่นขับไล่หรือไม่มีข้อพิพาทอันเกี่ยวกับที่ดินดังกล่าว
ครอบครองโดยเปิดเผย
ต้องเป็นการครอบครองที่ดินของผู้อื่นอย่างเปิดเผย แสดงออกต่อบุคคลอื่นทั่วไปว่าได้ครอบครองที่ดินเพื่อประโยชน์ของตนเองด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ เช่น เข้าไปทำเกษตรกรรมในที่ดินอย่างเป็นเจ้าของเป็นเวลานาน
ครอบครองติดต่อกันครบ 10 ปี
ผู้ครอบครองจะได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ได้นั้น ต้องมีการครอบครองที่ดินนั้น ๆ ติดต่อกันครบ 10 ปี หากครอบครองไม่ติดต่อกัน เช่น เข้าครอบครองที่ดินมา 9 ปี ต่อมาได้ไปอยู่ที่อื่น 1 ปี และกลับมาอยู่ที่เดิมต่ออีก 1 ปี ต้องเริ่มนับเวลาใหม่
การได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ในที่ดิน
เมื่อผู้ครอบครองได้ครอบครองครบหลักเกณ์ทั้ง 5 ข้อแล้ว กล่าวคือ ครอบครองด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ โดยสงบและเปิดเผยติดต่อกันเป็นเวลา 10 ปี ผู้ครอบครองสามารถไปยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อให้ศาลมีคำสั่งให้ได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ในที่ดินโดยการครอบครองปรปักษ์ ได้ทันทีเมื่อมีคำพิพากษาแล้ว สามารถไปติดต่อกรมที่ดิน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการออกโฉนดหรือเปลี่ยนแปลง ทะเบียนได้ทันที