วิธีซื้อกองทุน LTF และ RMF หลายที่แบบง่ายๆ

หากจะซื้อกองทุน LTF และ RMF แบบง่ายๆ จะซื้อได้ที่ไหน มีบ้างไหมที่เปิดทีเดียวแล้วซื้อได้ทุกที่เลย (เพราะขี้เกียจไป ฮ่าๆ) วันนี้เลยถือโอกาสมาเฉลยให้ฟังกันครับ

เมื่อก่อนต้องเปิดบัญชีหลายที่หลายเล่มจนเหนื่อยตามแต่ละ บลจ. ที่่สนใจ แต่พอรู้วิธีนี้ก็เริ่มใช้ชีวิตง่ายขึ้นครับ โดยใช้วิธีเปิดผ่านทางบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ที่เป็นตัวแทนขายกองทุนให้กับทางบริษัทหลักทรัพย์ต่างๆ มากมายหลายที่ ซึ่งข้อดีของวิธีนี้คือเราสามารถซื้อกองทุนได้หลากหลายมากมายในที่เดียวครับ แถมยังซื้อผ่านอินเทอร์เน็ตหรือผ่าน Application ได้อีกด้วย

ปัจจุบันผมมีใช้อยู่ 2 ที่ ได้แก่ บล.ฟิลลิป และ บล.โนมูระ ซึ่งสามารถใช้ซื้อกองทุน LTF และ RMF ของทุก บลจ. ที่ทาง บล.สองแห่งนี้เป็นตัวแทนขายได้เลยครับ เหมือนกับการเลือกซื้อของจากห้างสรรพสินค้าที่มาครั้งเดียวจบ เหมือนมีกองทุนรวมดีๆ มากมายให้เลือกสรรครับ โดยวิธีการซื้อแบบนี้จะมีประเภทของบัญชีอยู่ 2 ประเภทครับ นั่นคือ

1.บัญชีแบบ Omnibus account หรือบัญชีที่ไม่มีการเปิดเผยข้อมูลผู้ถือหน่วยลงทุนครับ หรือเป็นการซื้อในชื่อของ บล. นั้นๆ แต่มาแยกย่อยรายละเอียดว่าเป็นของเราผ่านข้อมูลของทาง บล. อีกทีหนึ่งครับ โดยทาง บลจ. จะไม่ทราบชื่อลูกค้าครับว่ามีใครซื้อบ้าง ยกตัวอย่าง เช่น นายบักหนอมซื้อหน่วยลงทุน กับกองทุนของ บลจ. A จำนวน 1 ล้านบาท ผ่านทาง บล. B ทาง บล. B จะทำการซื้อหน่วยลงทุนมูลค่า 1 ล้านบาท โดยใช้ชื่อของ บล. B กับทาง บลจ. A แต่มีข้อมูลระบุรายละเอียดว่า นายบักหนอมซื้อหน่วยลงทุนของ บลจ. A กี่บาท และได้หน่วยลงทุนกี่หน่วยเป็นข้อมูลภายในของ บล. อีกทีหนึ่งครับ

หลายคนได้ยินแบบนี้มักจะกลัวว่าทาง บลจ. A จะไม่รู้ข้อมูลของเรา แล้วถ้าหากทาง บล. B มีปัญหาขึ้นมาจะทำยังไง หน่วยลงทุนจะหายไหม ต้องบอกเลยครับว่า “สบายใจได้” เพราะข้อมูลทั้งหมดนี้จะมีอยู่และได้รับการดูแลเป็นอย่างดีครับ ต่อให้มีอะไรเกิดขึ้นกับ บล. B ก็ตาม ข้อมูลของเราก็จะไม่หายไปไหนครับ

2.บัญชีแบบ Selling Agent Account หลายคนอาจจะสงสัยว่าแตกต่างจาก Omnibus ตรงไหน บอกเลยครับว่าการซื้อผ่านทาง บล. นั้นไม่ต่างกันครับ แต่บัญชีประเภทนี้เป็นการระบุชื่อโดยตรงของเรา ไม่ใช่ซื้อผ่านทาง บลจ. อีกแล้ว ดังนั้นเราก็ต้องเปิดบัญชีซื้อ – ขายกองทุนโดยตรงกับแต่ละ บลจ. อีกทีด้วยครับ โดยให้ทาง บล. ดูแลและจัดการให้ได้หมดเลยครับ

พูดง่ายๆ ว่า บัญชีแบบ Selling Agent นั้นต้องเปิดบัญชีให้ครบตามที่เราอยากจะได้ทั้งหมดครับ ซึ่งตรงนี้จะระบุไปเลยในชื่อเราว่าเรามีการซื้อหน่วยลงทุนกี่บาท จำนวนเท่าไร โดยทาง บล.จะส่งข้อมูลของเราให้ทาง บลจ. ครับ อันนี้จะเห็นบ่อยสำหรับคนที่ซื้อบัญชี LTF และ RMF ครับ เพราะว่าเราจะต้องเปิดบัญชีประเภทนี้ในชื่อของเราโดยตรง เพื่อให้ทางกรมสรรพากรตรวจสอบข้อมูลได้ชัดเจนนั่นเองครับ

ส่วนเรื่องของค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่ายนั้น บอกเลยว่าเหมือนกับการซื้อกองทุนตามปกติ ไม่มีคิดเพิ่มเติมใดๆ ให้เสียอารมณ์ เรียกว่าสะดวกกว่าเพราะเหมือนจะรวมบัญชีทุกเรื่องไว้ในที่เดียว แถมบางทียังมีข้อมูลกองทุนดีๆ กองทุนเด็ดๆ ให้เราเลือกวางแผนลงทุนได้ง่ายขึ้นอีกด้วยครับ

เอาเป็นว่าถ้าปีนี้ใครกำลังมองหา LTF และ RMF ที่จะซื้อเพิ่มและไม่อยากเสียเวลา ผมแนะนำเลยครับว่า การซื้อผ่านทาง บล. ต่างๆ นี้ก็ถือเป็นทางเลือกที่ดีอีกทางหนึ่งครับ หากใครสนใจก็ลองหาข้อมูลในส่วนนี้เพิ่มเติมกันดูนะครับ

ที่มา : บทความ “อยากซื้อกองทุน LTF และ RMF หลายที่แบบง่ายๆ ต้องทำยังไงดี?” โดย TAXBugnoms (บล็อกภาษีข้างถนน)  Column กฎหมายภาษี วารสาร HR Society magazine ปีที่ 16 ฉบับที่ 187 เดือนมิถุนายน 2561