18 มิถุนายน 2562
ลองมาเช็กกันดูว่า 9 นิสัยขัดขวางความก้าวหน้าในงาน หากมีข้อไหนตรงกับตัวเองตอนนี้ รีบแก้ด่วนนะครับ
แบบนี้แหละ 9 นิสัยขัดขวางความก้าวหน้าในงาน
1. ชอบพูด ชอบวิจารณ์ผู้อื่น
หลายคนเป็นประเภทวิจารณ์ดีเด่น ชอบออกความเห็น พูดอย่างเดียว แต่ไม่แสดงผลงานอะไรออกมาให้เห็น นิสัยนี้ไม่ดีต่อการพัฒนาตัวเองเลย หากคุณไม่อยากย่ำอยู่กับที่ต้องหมั่นคิดให้เยอะแล้วลงมือทำทันที
2. ทำงานแบบซ้ำๆ เดิมๆ
มนุษย์เงินเดือนหลายคนทำงานที่ได้รับมอบหมายแบบซ้ำ ๆ เดิม ๆ จนชิน บางคน 5 ปีที่แล้วทำอย่างไร ปัจจุบันก็ยังทำอย่างนั้นอยู่ จนทำให้เจ้าตัวเกิดความคุ้นชิน ละเลยการคิดค้นหาวิธีการใหม่ในการทำงาน ฉะนั้นอย่าลืมหาความรู้รอบตัว เพื่อเพิ่มทักษะในการทำงานให้มากขึ้น
3. ไม่เปิดใจรับฟัง
โดยเฉพาะคนที่ทำงานมานานจะเริ่มมีความรู้สึกว่าฉันรู้ทุกเรื่อง เรื่องงานนี้หรืองานไหนฉันรู้ดีอยู่แล้ว พาลทำให้ไม่เปิดใจรับสิ่งใหม่ ๆ และสุดท้ายคุณก็จะย่ำอยู่กับที่ได้ ถ้าคุณอยากก้าวหน้าในการทำงาน คุณไม่ควรปิดตัวเอง คุณควรเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นบ้าง เพราะความคิดเห็นของคนอื่น อาจเป็นทางที่ดีกว่าสำหรับการทำงานก็ได้
4. มัวแต่นั่งรอให้หัวหน้าบอกว่าต้องทำอะไร
ถ้าหากสังเกตคนเก่ง ๆ ที่ได้รับโอกาสต่าง ๆ นั้น คนเหล่านี้มักจะมีนิสัยอย่างหนึ่งคือการชอบคิดและพยายามหาอะไรทำอยู่เรื่อย ๆ และหลาย ๆ ครั้งเป็นเรื่องที่มากกว่างานที่ตัวเองทำ ทั้งนี้เพราะการทำงานในลักษณะ Proactive จะทำให้คนอื่น ๆ รอบตัวคุณเห็นได้ถึงความพยายามและความตั้งใจในการทำงานให้ดีขึ้นของคุณ ซึ่งก็แน่นอนว่าคนเหล่านี้มักจะถูกให้ความสนใจเพราะพวกเขามักจะมากับความคิดว่าต้องไปสู่ “สิ่งที่ดีกว่า” หรือ “สิ่งที่ดีที่สุด” อยู่เสมอ แต่ในทางกลับกัน ถ้าเราเอาแต่นั่งรอคำสั่ง มันก็เหมือนกับการบอกกลาย ๆ ว่าเราไม่ใช่ประเภทที่จะพยายามคิดหรือตั้งคำถามว่าจะก้าวหน้าหรือดีกว่าเดิมได้อย่างไร และสุดท้ายก็เหมาะจะเป็นแค่ “คนทำงาน” มากกว่า “คนคิดงาน”
5. ขาดความมั่นใจ ไม่กล้าตัดสินใจ
ข้อนี้บอกได้เลยว่าถือเป็นอุปสรรคที่จะฉุดให้คุณไม่ได้เลื่อนตำแหน่งแน่นอน เพราะไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้อย่างเด็ดขาด หลายคนกลัวผลลัพธ์ที่ได้จากการตัดสิน (แม้ว่าจะยังไม่เกิดขึ้นก็ตาม) กลัวว่าหากตัดสินใจลงไปแล้วเกิดข้อผิดพลาดในการทำงาน ว่าจะทำให้กลายเป็นปัญหาใหญ่ ซึ่งแนวทางแก้ไขนั้นสามารถทำได้โดยการปรึกษาหัวหน้างานของคุณ โดยเล่าถึงปัญหาและแนวทางในการตัดสินใจ แรก ๆ คุณอาจจะยังไม่กล้า แต่หมั่นฝึกฝน หมั่นนำเสนอแนวทางการตัดสินใจให้หัวหน้างานทราบบ่อย ๆ จะช่วยให้คุณมีความมั่นใจและกล้าตัดสินใจในที่สุด
6. พึ่งพาคนอื่นมากเกินไป
หลายคนมีเพื่อนร่วมงานที่ดีคอยช่วยเหลือให้งานสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี หรือบางคนได้ทีมที่ดีมีอะไรขาดตกบกพร่องก็จะมีคนอาสาช่วยทำงานให้ลุล่วง ส่งผลให้คุณติดนิสัยพึ่งพาคนอื่นมากจนเกินไป ลองปรับเปลี่ยนเป็นขอคำแนะนำจากเพื่อนร่วมงาน ค่อยๆ เรียนรู้แล้วทำด้วยตัวเอง แรกๆ อาจจะต้องใช้เวลาอยู่บ้าง แต่เมื่อทำไปนานๆ จะเก่งขึ้นเอง
7. ไม่มีการวางเป้าหมายในการทำงาน
หลายคนทำงานโดยไม่มีการวางเป้าหมายในการทำงาน สนใจเพียงแค่ตัวเองมีงานทำเท่านั้น ซึ่งจุดนี้จะทำให้คุณค่อย ๆ กลายเป็นคนเฉื่อยชา ไม่มีความกระตือรือร้นที่จะทำอะไรใหม่ ๆ ใครที่รู้ตัวว่ากำลังเป็นแบบนี้ให้ลองตั้งเป้าหมายในการทำงานดู อาจจะเป็นเป้าหมายระยะสั้น เช่น ภายในหนึ่งปีจะต้องเพิ่มทักษะการทำงานให้มากขึ้น จนสามารถช่วยหัวหน้างานได้อย่างคล่องแคล่ว เป็นต้น
8. หยุดการขวนขวาย
สำหรับน้องใหม่ไฟแรงมักจะมีแรงฮึดในการทำงาน งานที่ได้รับมอบหมายคือความท้าทาย ทำงานผ่านไปจนเป็นรุ่นพี่หลายคนเริ่มไฟมอดจากที่เคยขวนขวายหาวิธีรับมือกับปัญหาการทำงานที่เกิดขึ้นก็ไม่ค่อยมี นาน ๆ ไปนิสัยนี้จะฉุดให้คุณอยู่ที่เดิมได้ ลองหาเวิร์คช็อปที่เกี่ยวข้องกับงานของคุณดู เพื่อเป็นการเปิดโลกทัศน์ใบใหม่ หรือลองลงเรียนคอร์สสั้น ๆ เพื่อเป็นการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ
9. ไม่พัฒนาตัวเอง
คำกล่าวที่ว่า การเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด ถือเป็นเรื่องจริงที่ใช้ได้เสมอ หนุ่มสาวชาวออฟฟิศบางคนอาจละเลยการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เพิ่มเติมไปโดยให้เหตุผลว่างานประจำที่ทำอยู่ยุ่งมาก หรือไม่มีเวลาเพียงพอ ทั้ง ๆ ที่ในความเป็นจริงแค่จัดสรรเวลาให้เป็นคุณก็จะมีเวลาเหลือสำหรับการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาศักยภาพในการทำงาน
เรื่อง : ทีมงานวิชาการ บริษัท สำนักพัฒนาการบริหารธรรมนิติ จำกัด