InTernView 10 ทักษะ 10 ประสบการณ์ จาก 10 Interns

พบกับประสบการณ์ของน้องๆ จาก 10 มหาวิทยาลัยที่ได้มาฝึกงานในรั้วธรรมนิติ ทั้ง 10 จะมาถ่ายทอดทักษะใหม่ที่ได้เรียนรู้ 

ในชีวิตการเรียนมหาวิทยาลัย ‘การฝึกงาน’ นับเป็นอีกก้าวสำคัญของน้องๆ นิสิตนักศึกษา ซึ่งแต่ละสถาบันก็มีข้อกำหนดที่แตกต่างกันออกไป กลุ่มบริษัทธรรมนิติ ในฐานะองค์กรวิชาชีพที่เก่าแก่ของเมืองไทยมากว่า 70 ปี ซึ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนาคน ตามหลักคิดที่ว่า  ‘คนคือทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดของธรรมนิติ’  จึงเปิดโอกาสให้นิสิตนักศึกษาได้มาร่วมฝึกงานอย่างต่อเนื่อง ผ่าน 10 บริษัทในเครือที่หลากหลายทั้งด้านกฎหมาย บัญชี สอบบัญชี ตรวจสอบภายใน อบรมสัมมนา รวมถึงงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยจุดประสงค์หลักคือให้น้องๆ เหล่านี้ได้สัมผัสกับประสบการณ์การทำงานอย่างมืออาชีพ รวมถึงได้ค้นพบและพัฒนาตัวเองในสายวิชาชีพที่เรียนมาและเป็นบัณฑิตคุณภาพของสังคมต่อไป  

บทสัมภาษณ์นี้เราคัดเลือกน้อง ๆ จาก 10 มหาวิทยาลัยที่มาฝึกงานในรั้วธรรมนิติ ให้มาเป็นตัวแทนถ่ายทอดทักษะใหม่ที่ได้มาเรียนรู้พัฒนาจากการเป็นนักศึกษาฝึกงานที่องค์กรแห่งนี้ 

ลองมาดูกันครับว่าทั้ง 10 คนนี้ได้เพิ่มพูนทักษะอะไรจากการฝึกงานกันบ้าง

MS HU YUEQIAN (เจ้าขา) 

วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์

สังกัด : บริษัท ตรวจสอบภายในธรรมนิติ จำกัด 

นักศึกษาชาวจีนที่มาเรียนแลกเปลี่ยนในเมืองไทยสนใจวิชาด้านไฟแนนซ์ เข้ามาฝึกงานจากคำแนะนำของอาจารย์ที่ปรึกษา แต่ระยะเวลา 4 เดือนทำให้รู้จักงานตรวจสอบภายในมากขึ้น และทักษะที่เธอภูมิใจคือการสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับคนอื่นด้วย “รอยยิ้ม” 

“ตอนฝึกงานได้เจอเพื่อนที่ชื่อน้ำฝน เธอบอกว่าวันแรกที่เจอกันเราเป็นคนที่ไม่น่าเข้าหา ดูหยิ่ง เพราะเป็นคนไม่ยิ้ม คือต้องบอกก่อนว่าธรรมชาติของคนจีนเป็นคนที่ไม่ค่อยยิ้มเพราะไม่รู้จะยิ้มทำไม ตอนอยู่เมืองจีนเพื่อนที่เรียนห้องเดียวกันออกมานอกห้องเรียนเดินสวนกันก็แทบไม่สบตากันด้วยซ้ำ แต่พอเพื่อนบอกแบบนี้ก็รู้สึกว่าการยิ้มเป็นเรื่องสำคัญมาก ทำให้ผู้ใหญ่เอ็นดูและดูเป็นมิตร พร้อมที่จะสร้างความสัมพันธ์กับคนอื่นๆ พอจะกลับไปจีนก็กลายเป็นคนยิ้มแย้มจนเพื่อนๆ ทักว่าแปลกไป แต่เรามองว่ามันเป็นเรื่องเล็กๆ ที่คนไทยใส่ใจ และไม่ใช่แค่ยิ้มให้กับคนอื่นเท่านั้น แต่การยิ้มยังสร้างความมั่นใจให้กับตัวเองได้ด้วย”

น.ส.ฐานิสา  ฐาปนโชติ (พลอย) 

คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี (หลักสูตรนานาชาติ) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

สังกัด : บริษัท ธรรมนิติการบัญชีและภาษีอากร จำกัด

สาวบัญชีจุฬาฯ ภาคอินเตอร์ ที่ทางมหาวิทยาลัยไม่ได้มีวิชาบังคับให้มาฝึกงาน แต่เธอเลือกที่จะมาฝึกงานด้วยตัวเองที่ธรรมนิติ แม้จะเป็นการฝึกงานช่วงสั้นๆ เพียง 4 สัปดาห์แต่ก็ทำให้เธอได้เรียนรู้ทักษะในการ “วิเคราะห์” ซึ่งเป็นทักษะสำคัญของการทำบัญชี“

ตอนมาฝึกงานเป็นช่วงที่เพิ่งปิดงบ ก็เลยได้มาช่วยงานเอกสาร แนบใบสำคัญรับ-สำคัญจ่าย แล้วแพ็คเอกสารคืนลูกค้า งานดูเหมือนง่ายนะคะแต่จริง ๆ ใช้เวลาอยู่เหมือนกัน ซึ่งการจัดเก็บเอกสารนี้ทำให้เรารู้จักวิเคราะห์ แยกแยะ เพื่อจะได้จัดเอกสารให้ถูกต้อง ซึ่งแรกๆ จะใช้เวลาหน่อยว่าต้องจัดเอกสารตัวไหน เรียงยังไง แต่หลังๆ นี่ไม่ต้องถามแล้ว เรียงคล่องเลยเพิ่มสปีดได้อย่างรวดเร็วค่ะ”

น.ส.ลักษิกา ลิ่วพงษ์สารสิน (ยีนส์)

คณะวิทยากรจัดการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่

สังกัด : บริษัท ธรรมนิติ จำกัด (มหาชน)

สาวบัญชีจากภาคใต้ ที่หาบริษัทเพื่อฝึกงานแล้วค้นเจอกระทู้พันทิปที่รีวิวถึงธรรมนิติว่าเป็น Local Firm อันดับต้นๆ ของประเทศ ฝึกแล้วได้ทำงานจริง เธอจึงสมัครเข้ามาและเมื่อมาฝึกงานจริงๆ ทำให้เธอมีทักษะของ “ความละเอียดรอบคอบ” เพิ่มมากขึ้น  

“งานที่ทำเป็นพวกกระทบยอดคงเหลือ ตรวจใบเบิกค่าพาหนะ บันทึกบัญชี ออกใบกำกับภาษี ซึ่งต้องใช้ความละเอียดรอบคอบ บัญชีเป็นงานที่ต้องถูกต้องแม่นยำ เพราะบางเคสถ้าผิดพลาดมันเป็นเรื่องใหญ่และกระทบกับหลายฝ่าย เมื่อได้ทำงานจริงๆ ทำให้เราต้องระวังและละเอียดรอบคอบมากยิ่งขึ้น เรียกว่าเช็คงานอย่างละเอียดก่อนส่งเพื่อจะได้มั่นใจว่างานที่ออกไปจากเราต้องถูกต้องมีคุณภาพ”

น.ส.วรรณพร ธนปัญญานนท์ (ออย)

คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

สังกัด บริษัท ฝึกอบรมและสัมมนาธรรมนิติ จำกัด

แม้จะไม่มีความรู้ด้านการประสานงานและการจัดสัมมนามาก่อน แต่เธอก็ได้รับประสบการณ์ใหม่นี้ไปเต็มที่ และทักษะสำคัญที่สาวน้อยคนนี้ได้กลับไปก็คือ “การพูดในที่สาธารณะ”

“งานที่ได้รับมอบหมายเป็นการไปรับลงทะเบียน แจกเอกสารการอบรม แล้วพี่ๆ คงเห็นว่าเป็นคนขี้อาย เลยให้ไปพูดเปิด-ปิดงานสัมมนา แจ้งกำหนดการในงาน ตอนแรกก็กังวลเพราะเวลาพูดหน้าชั้นเรียนก็จะไม่สบตาคน มองกำแพงหลังห้องอย่างเดียวเลย ครั้งแรกที่ไปพูดคือเขินมาก จำได้เลยว่าพูดแบบช้าๆ พูดผิดพูดถูก แต่พอหลังๆ ก็คล่องขึ้น เริ่มกล้ามองคนมากขึ้น หลังจากนี้กลับไปพรีเซนต์งานก็กล้าพูดกล้าสบตาคนฟังเแล้วค่ะ”

น.ส.นิศารัตน์ มั่งเจริญ (แอ๋ม) 

คณะนวัตกรรมสื่อสารสังคม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

สังกัด : บริษัท ตรวจสอบภายในธรรมนิติ จำกัด

สาวน้อยคนนี้เรียนด้านคอมพิวเตอร์ การเขียนโค้ด เขียนโปรแกรม ไม่ได้เรียนรู้ด้านการตรวจสอบเทคโนโลยีสารสนเทศมาก่อน และเมื่อมาสัมผัสการทำงานจริงทักษะที่ได้กลับไปก็คือ “ความช่างสังเกต” 

“มีโอกาสได้ตามพี่ๆ ไปดูกระบวนการทำงาน IT Audit ทักษะที่ได้มาเต็มๆ คือเรื่องการสังเกต ก่อนหน้านี้เราไม่รู้ว่าถังดับเพลิงมันต่างกันยังไง พี่ๆ ก็สอนว่าถังสีแดงด้านในจะเป็นผงใช้ได้ทั่วไป ถังสีเขียวชนิดสารสะอาดซึ่งอันนี้เหมาะกับการใช้งานในห้องคอมพิวเตอร์ ส่วนถังสีเงินจะเป็นโฟมใช้กับพวกน้ำมัน ซึ่งพอเรารู้อย่างนี้แล้วเวลาไปสถานที่ต่างๆ เราก็จะดูว่าเขาใช้ถังสีอะไรเหมาะกับธุรกิจหรือเปล่า ไปจนถึงดูมุมกล้องวงจรปิด ดูใบอนุญาตเว็บไซต์ที่เข้าว่าปลอดภัยหรือเปล่า คือสังเกตทุกอย่างจากที่พี่ๆ สอนมา ซึ่งนอกจากเรื่องงานยังทำให้เราสนุกกับการสังเกตเรื่องรอบตัวมากขึ้นด้วย”

น.ส.นีรชา พรชัย (ว่าน) 

คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

สังกัด : บริษัท ธรรมนิติการบัญชีและภาษีอากร จำกัด

ด้วยความตั้งใจอยากฝึกงานด้านบัญชีแบบเข้มข้นเลยเลือกฝึกงานที่ธรรมนิติเป็นอันดับหนึ่ง และการฝึกงานครั้งนี้ก็ทำให้เธอมีทักษะใหม่ของการเป็นนักบัญชีมืออาชีพ นั่นก็คือการ “ใช้เครื่องคิดเลขแบบมือโปร” 

“งานที่ได้รับมอบหมายคือการคีย์ข้อมูล เพราะฉะนั้นเครื่องคิดเลขเปรียบเหมือนอวัยวะสำคัญของนักบัญชี แต่เครื่องที่เราใช้ถนัดที่สุดก็ไม่ได้พกมาด้วย เมื่อใช้แป้นใหม่จากที่ไม่ชินพอทำทุกๆ วันไม่นานก็ดีขึ้น กลายเป็นได้ความสามารถใหม่อย่าง “การพิมพ์ตัวเลขโดยไม่ต้องมองแป้นได้อย่างรวดเร็ว”  ตอนแรกเห็นพี่ๆ ทำได้เราก็อยากทำบ้าง พอมาถึงจุดนี้คือแบบรู้สึกฟินเลย เหมือนประสบความสำเร็จปลดล็อกได้ 1 ด่านแล้ว รู้สึกว่าตัวเองเก่งขึ้นแล้วก็เป็นทักษะที่จะได้ไปใช้จริงในอนาคต”

น.ส.พิมพ์พลอย พักตร์ผ่อง (กาน) 

คณะบริหารธุรกิจและเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ 

สังกัด : บริษัท ตรวจสอบภายในธรรมนิติ จำกัด

สาวบัญชีที่รู้จักและเคยใช้โปรแกรม Excel มาก่อน แต่เมื่อได้มาฝึกงานจริงๆ  เธอก็พบว่า โลกแทบจะเปลี่ยนไปเมื่อมีทักษะ “ใช้โปรแกรม Excel ขั้น Advance ”  

“งานตรวจสอบภายในจะใช้โปรแกรม Excel เป็นหลัก ก่อนหน้านี้ก็เคยใช้บ้าง แต่พอมาทำงานตรงนี้พี่ๆ ให้คำนวณตัวเลขผ่าน Excel ที่มีข้อมูลเยอะมาก ต้องใช้สูตร Excel ที่ Advance มากขึ้น อย่างการใช้ Pivot Table เพื่อสรุปผลข้อมูลจำนวนมากๆ  หรือ Freeze Panes ล็อกแถวเพื่อให้แสดงผล ทั้งสองสูตรนี้คือเปลี่ยนการทำงานได้เลย ช่วยให้ทำงานได้เร็วขึ้น สูตรที่พี่ๆ สอนมาก็จดไว้หมดเพราะคงได้ใช้ทั้งการเรียนและการทำงานอย่างแน่นอน”

ดวงรัตน์ ปั้นประสงค์ (อาย) 

คณะพาณิชศาสตร์การบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

สังกัด : บริษัท ธรรมนิติ จำกัด (มหาชน)

นักศึกษาคณะพาณิชศาสตร์และการบัญชีที่สนใจงานด้านกราฟิคดีไซน์ ดังนั้นเมื่อมีโอกาสเธอเลยเลือกตัดสินใจจะฝึกงานสายกราฟิคซึ่งช่วยเติมทักษะ “คิดอย่างมีระบบ” 

“มาฝึกงานกราฟิคเพราะว่าชอบด้านวาดรูป ดีไซน์ ก่อนหน้านี้ก็เคยออกแบบโปสเตอร์ของชมรมที่มหาวิทยาลัยบ้าง เราดูว่าชิ้นงานแค่สวยก็จบไป  แต่พอได้มาฝึกงานที่ธรรมนิติ งานมันไม่ใช่แค่สวยหรือมีเทคนิคที่หรูหรากว่าคนอื่น พี่ๆ สอนให้รู้จัก CI ซึ่งเป็นการสร้างเอกลักษณ์ให้กับองค์กร คุมความเป็นหนึ่งเดียวของงานที่เราจะสื่อออกไป งานกราฟิคต้องเล่าเรื่องผ่านภาพ พอได้รู้ตรงนี้ก็พบว่ามันมากกว่าคำว่าสวยไปอีก มันคือเรื่องของการสื่อสารผ่านศิลปะ ซึ่งหลังจากนี้พอกลับไปเรียนงานที่เราจะทำก็ต้องคิดงานอย่างมีระบบ วางแผนก่อนว่า CI ของงานที่ทำคืออะไร ทั้งของงานกลุ่ม งานชมรม”

ศุภนิดา ม่วงพานิล (แป้ง) 

สำนักวิชาสหวิทยาการ (บัญชีบัณฑิต)  มหาวิทยาลัยมหิดล 

สังกัด : บริษัท ตรวจสอบภายในธรรมนิติ จำกัด

ความอยากเรียนรู้งานตรวจสอบภายในเพราะเคยเรียนทฤษฎีมาบ้าง เธอจึงเลือกฝึกงานด้าน  ตรวจสอบภายใน และก็ไม่ผิดหวังเพราะทักษะที่ได้จากการฝึกงานครั้งนี้คือ “การจับประเด็น” 

“การฟังจับใจความ คือความสามารถใหม่ที่ได้รับจากที่นี่ พอมาฝึกงานพี่ๆ มอบหมายให้สรุปรายงานการประชุม ต้องมีการถอดเทปไฟล์เสียงสัมภาษณ์ลูกค้า ตอนทำครั้งแรกคือพิมพ์ทุกตัวอักษรที่ได้ยิน พี่ๆ สอนให้เขียนเป็นสรุปความเข้าใจ จากนั้นก็เริ่มพัฒนามาเรื่อยๆ เราต้องฟังอย่างมีสติแล้วจับประเด็น เพราะบางทีคนพูดประเด็นนี้และโดดไปอีกเรื่องแล้ววนกลับมาใหม่ การได้มาฝึกตรงนี้ทำให้ได้ทักษะในการฟังและสรุปประเด็นต่างๆ ออกมา ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญในการทำงานต่อไปในอนาคต”

นายอดิศร กาญจนานันท์ (ม่อน) 

คณะวิทยาศาสตร์ประยุกต์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ

สังกัด : บริษัท ดีไอทีซี จำกัด

นอกจาการความรู้และประสบการณ์ด้านงานดิจิทัลที่ได้จากการฝึกงานฝ่ายพัฒนาเว็บไซต์ การได้ร่วมมือทำกิจกรรมต่างๆ ขององค์กรช่วยให้เขาเรียนรู้ทักษะในเรื่องการ “ทำงานเป็นทีม” กลับไปด้วย

“ผมมีโอกาสไปร่วมกิจกรรม CSR ของบริษัทที่พนักงานไปช่วยปรับปรุงโรงเรียนที่จังหวัดชัยภูมิ กิจกรรมนี้เราได้รับมอบหมายให้ไปช่วยทาสีโรงเรียน ได้รู้จักพี่ๆ และวิธีการทำงานร่วมกัน ส่วนอีกกิจกรรมคือกีฬาสี ได้เต้นโคฟเวอร์ เป็นเชียร์ลีดเดอร์ ต้องบอกว่าบริษัทเปิดโอกาสให้เด็กฝึกงานมีส่วนร่วมหลายอย่าง ซึ่งทักษะที่ได้เรียนรู้คือการทำงานเป็นทีม ทุกคนต่างรับผิดชอบ รับฟังความคิดเห็นซึ่งกันและกัน ช่วยเหลือกันและทุ่มเทเพื่อให้งานสำเร็จ เป็นบรรยากาศการทำงานที่น่าประทับใจมากครับ

ที่มา : นิตยสาร HR Society magazine ฉบับกันยายน 2561