03 ตุลาคม 2563
วันนี้เรามาดูกันดีกว่าครับว่า การทำบัญชีชุดเดียว มีประโยชน์และวิธีการจัดทำ อย่างไรบ้าง เพราะว่าหากไม่ทำวันนี้วันหน้าก็ยังต้องทำตามนโยบายนี้อยู่ดี
จากที่ภาครัฐได้ออกมาตรการบัญชีชุดเดียวออกมา มีทั้งประโยชน์ที่ได้เพิ่มเติม หรือนโยบายส่งเสริมอื่นๆ จากภาครัฐ แต่อาจจะยังไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร อาจเป็นเพราะข้อมูลหลักฐานทุกอย่าง ต้องทำให้ถูกต้อง เพื่อสะท้อนสภาพความเป็นจริง
โดยผู้ประกอบการทั้งหลาย สามารถเข้าไปจดทะเบียนได้ที่เว็บไซต์ของกรมสรรพากร คือ http://www.rd.go.th/ หรือ https://edss.sys.rd.go.th/sme/
บัญชีชุดเดียว คืออะไร ?
มาตรการบัญชีชุดเดียว เป็นแนวทางจากภาครัฐที่สนับสนุนให้ผู้ประกอบการทั่วไปและผู้ประกอบวิสาหกิจขนาดย่อม (SMEs) มีการจัดทำบัญชีและงบการเงินให้สอดคล้องกับสภาพที่แท้จริงของกิจการ โดยต้องยื่นคำร้องขอจดแจ้งบัญชีชุดเดียว ต่อกรมสรรพากรเพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษีในการยกเว้นและลดอัตราภาษี
ประโยชน์ของบัญชีชุดเดียว
- ใช้เป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์และวางแผนดําเนินธุรกิจ
- สร้างความน่าเชื่อถือและความเป็นมาตรฐานทางการเงิน
- ได้สิทธิประโยชน์ลดอัตราภาษีและยกเว้นภาษีอากร
- เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการ
- ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2562 เป็นต้นไป ธนาคารพาณิชย์จะพิจารณาการทำธุรกรรมทางการเงินหรืออนุมัติปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการจากบัญชีชุดเดียวที่ยื่นต่อสรรพากรเท่านั้น
กรณีจดแจ้งบัญชีชุดเดียว
การจัดทำบัญชีชุดเดียว
1.กิจการต้องมีผู้ทำบัญชี ทำหน้าที่ในการทำบัญชีนับแต่วันเริ่มทำบัญชีและควบคุมให้ถูกต้องตรงตามความเป็นจริง
- ต้องปิดบัญชีครั้งแรกภายใน 12 เดือน
- ต้องทำการปรับปรุงบัญชีเมื่อพบข้อผิดพลาดทางบัญชี
- ต้องจัดทำงบการเงินให้ได้รับการตรวจสอบและแสดงความคิดเห็นโดยผู้สอบบัญชีรับอนุญาต (CPA)
ยกเว้น งบการเงินของห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนที่มีทุนไม่เกิน 5 ล้านบาท
สินทรัพย์รวมไม่เกิน 30 ล้านบาท และรายได้ไม่เกิน 30 ล้านบาท
แต่ต้องมีผู้สอบบัญชีภาษีอากร (TA) ตรวจสอบงบการเงิน
2.กิจการต้องเก็บรักษาบัญชีและเอกสารบัญชีเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปีนับแต่วันปิดบัญชี
3.เอกสารประกอบการจัดทำบัญชีชุดเดียว
- เอกสารประกอบการลงบัญชี ที่ใช้เป็นหลักฐานในการ
ลงรายการในบัญชี เช่น หนังสือ หรือเอกสารใดๆ - บัญชี ประกอบด้วย
– บัญชีรายวัน (5 เล่ม : ซื้อ/ขาย/จ่าย/รับ/ทั่วไป)
– บัญชีแยกประเภท
– บัญชีสินค้า
– บัญชีอื่นๆตามความจำเป็นในการทำบัญชีของธุรกิจ
- งบการเงิน ประกอบด้วย
– งบแสดงฐานะการเงิน (งบดุล)
– งบกำไรขาดทุน
– งบแสดงการเปลี่ยนแปลงส่วนของเจ้าของ
– หมายเหตุประกอบงบการเงิน
– งบกระแสเงินสด (ถ้ามี)
– งบการเงินรวม (ถ้ามี)