11 มีนาคม 2565
ครม. ไฟเขียวขยายเวลามาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน ออกไปอีก 3 ถึงปี 2565
ครม.เห็นชอบ ขยายเวลามาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน โดยยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับวิสาหกิจชุมชนตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน เฉพาะที่เป็นห้างหุ้นส่วนหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล ซึ่งมีเงินได้ปีละไม่เกิน 1.8 ล้านบาท ออกไปอีกเป็นระยะเวลา 3 ปี สำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ….) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย และให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
กค. เสนอว่า
1.โดยที่รัฐบาลได้มีนโยบายในการกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อให้เศรษฐกิจของชุมชนมีความเข้มแข็งและพัฒนาให้เกิดความยั่งยืน ประกอบกับที่ผ่านมา กค. ได้มีมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน และบรรเทาภาระภาษีสำหรับวิสาหกิจชุมชนฯ อย่างต่อเนื่อง โดยได้มีการออกกฎกระทรวงกำหนดมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน รวม 5 ฉบับ เพื่อยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับวิสาหกิจชุมชนฯ สำหรับปีภาษี พ.ศ. 2551 – พ.ศ. 2562
2.กค. พิจารณาแล้วเห็นว่าเพื่อเป็นการบรรเทาภาระภาษีให้แก่วิสาหกิจชุมชนอย่างต่อเนื่องและส่งเสริมให้ชุมชนรวมตัวกันประกอบกิจการในลักษณะคณะบุคคล และเพื่อสร้างรายได้ให้ครอบครัวสามารถพึ่งพาตนเองและสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากให้แก่ชุมชน สมควรขยายระยะเวลาให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีตามมาตรการภาษีดังกล่าวออกไป โดยยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับวิสาหกิจชุมชนตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน เฉพาะที่เป็นห้างหุ้นส่วนหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล ซึ่งมีเงินได้ปีละไม่เกิน 1.8 ล้านบาท ออกไปอีกเป็นระยะเวลา 3 ปี สำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565
3.กค. ได้ดำเนินการจัดทำประมาณการการสูญเสียรายได้และประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับตามมาตรา 27 และมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 โดยรายงานว่าการดำเนินการตามมาตรการทางภาษีดังกล่าวจะไม่ส่งผลให้ภาครัฐสูญเสียรายได้ เนื่องจากปัจจุบันวิสาหกิจชุมชนดังกล่าวได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้ แต่หากกำหนดให้มีการจัดเก็บภาษีเงินได้ของวิสาหกิจชุมชนตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนจะทำให้ภาครัฐมีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 15 ล้านบาท แต่อย่างไรก็ตามมาตรการดังกล่าวมีประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ ดังนี้
3.1 บรรเทาภาษีให้วิสาหกิจชุมชน ซึ่งเป็นเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็งและพัฒนาอย่างยั่งยืน
3.2 เสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากของประเทศและสามารถพัฒนาศักยภาพการผลิตสินค้าและบริการของชุมชนให้เติบโตอย่างต่อเนื่องเป็นธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในอนาคต
3.3 สนับสนุนวิสาหกิจชุมชนให้มีวิถีชีวิตร่วมกันและรวมตัวกันประกอบกิจการเพื่อสร้างรายได้และพึ่งพาตนเองของครอบครัว ชุมชน อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
ที่มา : สรุปข่าวการประชุมคณะรัฐมนตรี 12 พฤษภาคม 2563