สรุป! หลังยกเลิกเคอร์ฟิว สถานที่/กิจการ/กิจกรรมใด เปิดบ้าง? อะไรทำได้บ้าง?

03 มีนาคม 2565

Timeline มาตรการป้องกันโควิด

26 มี.ค. 63    : บังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

28 มี.ค. 63    : สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว

3 เม.ย. 63      : บังคับใช้ เคอร์ฟิว

3 พ.ค. 63     : ปลดล็อกระยะที่ 1

17 พ.ค. 63      : ปลดล็อกระยะที่ 2

1 มิ.ย. 63        : ปลดล็อกระยะที่ 3

15 มิ.ย. 63     : ยกเลิกเคอร์ฟิว, ปลดล็อกระยะที่ 4

1 ก.ค. 63        : ปลดล็อกระยะที่ 5

31 ก.ค. 63     : สิ้นสุด พ.ร.ก. ฉุกเฉิน (อาจเปลี่ยนแปลง)

 

กิจการ / กิจกรรม ที่เปิดบริการแล้ว

โดยสามารถเปิดบริการได้ทั้งหมด ภายใต้มาตรการป้องกันโรค

ปลดล็อกระยะที่ 1

ตลาด / ตลาดนัด

รวมไปถึง ตลาดน้ำ ถนนคนเดิน แผงลอย สามารถขายสินค้าได้ทุกประเภท

ร้านตัดขนสัตว์

รวมไปถึงร้านรับเลี้ยง รับฝากสัตว์ สามารถเปิดให้บริการได้แล้ว ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค

 

ปลดล็อกระยะที่ 2

ร้านค้าปลีก – ส่ง

เช่น ร้านสะดวกซื้อ ซุปเปอร์มาร์เก็ต จัดให้มีการเว้นระยะห่าง ควบคุมการเข้าออก

 

ปลดล็อกระยะที่ 3

ฟิตเนส

สามารถเปิดได้ทั้งในและนอกห้างสรรพสินค้า จำกัดเวลา ควบคุมผู้เล่น และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค

โรงหนัง โรงละคร

สามารถเปิดได้ทั้งในและนอกห้างสรรพสินค้า และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค

คลินิกเสริมความงาม

สามารถเปิดให้บริการได้ แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค

สปา นวดแผนไทย

สามารถเปิดให้บริการได้ แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค

สระน้ำ

สามารถเปิดให้บริการได้ แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค

ร้านตัดผม เสริมสวย

สามารถเปิดบริการได้แล้ว ยังคงให้จองคิวเข้าใช้บริการ ช่างต้องใส่หน้ากากอนามัย และ Face Shield และห้ามมีผู้นั่งรอในร้าน

ปลดล็อกระยะที่ 4                   

สวนสาธารณะ ลานกิจกรรม

การออกกำลังกายแบบกลุ่ม สามารถดำเนินกิจกรรมได้

สถานรับเลี้ยงเด็ก

รวมไปถึงศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก สถานดูแลผู้สูงอายุ สามารถเปิดให้บริการแบบรายวันได้ และต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค

ศูนย์วิทยาศาสตร์

สามารถเปิดให้บริการได้ และต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค

สวนสัตว์

สามารถเปิดบริการได้แล้ว ยังคงจำกัดผู้เข้าร่วมกิจกรรม และต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค

การประชุม สัมมนา

รวมไปถึง การจัดแสดงสินค้า คอนเสิร์ต การจัดเลี้ยง งานพิธี สามารถดำเนินการได้ และต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค

ร้านอาหาร

จำหน่ายอาหารทั่วไป ภัตตาคาร สวนอาหาร สามารถขายและนั่งดื่มสุรา หรือแอลกอฮอล์ในร้านได้ ห้ามมีกิจกรรมส่งเสริมการขาย

สถานที่ออกกำลังกาย

รวมไปถึง สนามฝึกซ้อม สนามกีฬาทุกประเภท แข่งขันได้ แต่ต้องไม่มีผู้ชม

สวนน้ำ สวนสนุก

สามารถเปิดบริการได้แล้ว แต่ยังคงงดบริการเครื่องเล่นที่มีการสัมผัสร่วม

กองถ่ายทำ

สามารถดำเนินการได้ ทุกแผนกรวมกัน   ไม่เกิน 150 คน ผู้เข้าชมในห้องอัดไม่เกิน 50 คน

 

ปลดล็อกระยะที่ 5

ห้างสรรพสินค้า

เปิดได้ทุกโซน สามารถเปิด-ปิด ได้ตามเวลาปกติ

โรงเรียน และสถานศึกษา

สามารถเปิดได้ทั้งหมด ทั้งภาครัฐและเอกชน ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค

ผับ บาร์ คาราโอเกะ

ปิดไม่เกินเวลา 24.00 น. จำกัดคนเข้าใช้บริการ ห้ามร่วมโต๊ะกับกลุ่มอื่น ตั้งโต๊ะห่างกัน 2 เมตร และห้ามมีกิจกรรมส่งเสริม     การขาย

สถานอาบ อบ นวด

ต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่ใช้บริการ เว้นระยะนั่งและยืนมากกว่า 1 เมตร ผู้ประกอบการต้องทำความสะอาดห้องอ่างอาบน้ำ สุขา จุดสัมผัสต่าง ๆ จัดพื้นที่ไม่ให้แออัด ติดตั้งกล้องวงจรปิดในพื้นที่ส่วนรวม และห้ามมีการขายประเวณี

 

ปลดล็อกแล้วเมื่อ 1 ก.ค. 63

อุทยานแห่งชาติ

สามารถเปิดให้ท่องเที่ยวแล้ว (บางส่วน) มีการจำกัดจำนวนคน โดยใช้ระบบ “ไทยชนะ” เพื่อคัดกรองคนเข้า-ออก

เริ่มปลดล็อกแล้ว

ชายหาด

สถานที่ท่องเที่ยวบริเวณทะเล ชายหาด เปิดให้ท่องเที่ยวแล้ว แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค

 

ปลดล็อก 11 กลุ่ม บินเข้าไทยได้

1. เป็นผู้มีสัญชาติไทย

2. ผู้มีเหตุยกเว้นได้รับอนุญาต หรือถูกเชิญให้เข้ามาในราชอาณาจักร

3. ผู้ไม่มีสัญชาติไทย ซึ่งเป็น คู่สมรส บิดา มารดา หรือบุตรของผู้มีสัญชาติไทย

4. ผู้ไม่มีสัญชาติไทย ซึ่งมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรไทย

5. ผู้ไม่มีสัญชาติไทย ซึ่งมีใบอนุญาตทำงาน / คู่สมรส หรือบุตรของบุคคลดังกล่าว

6. ผู้ขนส่งสินค้าตามความจำเป็น เมื่อเสร็จภารกิจแล้วให้ออก นอกราชอาณาจักรโดยเร็ว

7. ผู้ควบคุมยานพาหนะ ซึ่งจำเป็นต้องเดินทางเข้ามาตามภารกิจ มีกำหนดเวลาเดินทางชัดเจน

8. ผู้ไม่มีสัญชาติไทย ซึ่งเป็นผู้ศึกษาอยู่ในสถานศึกษาไทย / บิดามารดาของบุคคลดังกล่าว

9. ผู้ไม่มีสัญชาติไทย ซึ่งมีความจำเป็นต้องเข้ามารับการตรวจรักษาพยาบาลในไทย

10. บุคคลในคณะทูต คณะกงสุล องค์การระหว่างประเทศ ผู้แทนรัฐบาล ตามที่ได้รับอนุญาต

11. ไม่มีสัญชาติไทย ซึ่งได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้ามาตามข้อตกลงพิเศษ

พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยังบังคับใช้อยู่

พ.ร.ก.ฉุกเฉิน คือ กฎหมายที่ให้อำนาจพิเศษแก่รัฐบาลในการควบคุมสถานการณ์ ที่อาจกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชนหรือเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐ

**ผู้ใดฝ่าฝืนข้อกำหนด หรือคำสั่ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 18)**

ข้อกำหนด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ยังบังคับใช้

1. ปิดช่องทางเข้ามาในราชอาณาจักร เส้นทางคมนาคมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นทางอากาศ ทางน้ำ หรือทางบก (ยกเว้นบุคคลบางกลุ่ม บางกรณี)

2. ห้ามกักตุนสินค้า ซึ่งเป็นยา เวชภัณฑ์ อาหาร น้ำดื่ม หรือสินค้าอื่นที่จำเป็นต่อการอุปโภคบริโภค

3. ห้ามชุมนุม ห้ามทำกิจกรรม หรือทำการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย

4. ห้ามเสนอข่าวที่บิดเบือนความจริงไปตามสื่อต่าง ๆ ที่ทำให้ประชาชนเข้าใจผิด และหวาดกลัว

5. ปิดสถานที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ COVID-19 ซึ่งมีการผ่อนปรนเป็นระยะ ขณะนี้อยู่ในระยะที่ 5 (ปลดล็อกกิจการธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูงมาก)

Tag

Copyright ©2024  dharmniti.co.th All rights reserved.

Log in with your credentials

Forgot your details?