13 พฤษภาคม 2567
คณะผู้เข้าร่วมโครงการ Dharmniti Key Staff 2023 ตัวแทนจากบริษัทในเครือธรรมนิติ ทั้ง 15 ท่าน ได้เดินทางเดินทางไปทัศนศึกษา ณ ฮ่องกง เมื่อวันที่ 13 – 16 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา
M+ Museum โลกแห่งวัฒนธรรมทางสายตาแบบร่วมสมัยอันน่าประทับใจ
พิพิธภัณฑ์ระดับโลกแห่งแรกของเอเชียที่จัดแสดงวัฒนธรรมทางสายตาแบบร่วมสมัย M+ Collection จัดแสดงผลงานจากฮ่องกง จีนแผ่นดินใหญ่ รวมถึงสถานที่อื่น ๆ ในเอเชียและทั่วโลก ซึ่งประกอบด้วยทัศนศิลป์สามสาขา รวมถึงการออกแบบและสถาปัตยกรรม ภาพเคลื่อนไหว และพื้นที่เฉพาะเรื่องเกี่ยวกับวัฒนธรรมทางสายตาของฮ่องกง มีแกลเลอรีจัดแสดงงานศิลปะถึง 33 ห้อง บนพื้นที่ราว 17,000 ตร.ม. ซึ่งตอนที่ทางคณะ Key Staff ไปนั้น เป็นช่วงที่ทางมิวเซียมได้มีการจัดนิทรรศการที่น่าสนใจ ตื่นตากับสิ่งใหม่ ๆ พร้อมได้แชะภาพกันสนุกอีกด้วย
นิทรรศการ Individuals, Networks, Expressions เป็นการนำเสนอสายสัมพันธ์ที่ซับซ้อน ระหว่างศิลปินและงานศิลปะต่างๆ ที่จัดแสดงในนิทรรศการนี้ เป็นการแสดงถึงความร่วมมือกันช่วยสร้างเรื่องราวที่เชื่อมโยงในมิติของประสบการณ์ส่วนบุคคลและประสบการณ์ส่วนรวมเข้าด้วยกัน โดยมุ่งเน้นไปที่ความเป็นเอเชีย ที่เป็นพื้นที่ทางวัฒนธรรมผืนใหญ่ที่มี อัตลักษณ์ ประวัติศาสตร์ และมุมมองที่หลากหลายและแตกต่างออกไป
นิทรรศการนี้ จัดแสดงให้เห็นความสามารถของหลากกลุ่มศิลปิน ที่มีความหลากหลายด้านเทคนิค วัสดุ รูปแบบ และวิธีการที่แตกต่างกันออกไป เพื่อสะท้อนบริบททางวัฒนธรรมหรือสังคมของศิลปิน ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในเชิงภูมิรัฐศาสตร์โลก ซึ่งศิลปินและงานศิลปะของพวกเขาเหล่านี้ มาจัดแสดงร่วมกันก็เพราะเพื่อได้ร่วมสร้างทัศนศิลป์ ที่ กระตุ้นความคิดให้ผู้ชมอย่างสร้างสรรค์นั่นเอง
อีกหนึ่งนิทรรศการที่น่าสนใจ Things, Spaces, Interactions เป็นนิทรรศที่มีการจัดแสดงอย่างต่อเนื่อง มีงานแสดงมากกว่า 500 รายการ ซึ่งการติดตั้งผลงานนี้ ต่างประกอบไปด้วยเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ สถาปัตยกรรม ศิลปะกราฟิก และวัตถุสำหรับงานออกแบบอื่นๆ ที่มีเป็นอีกหนึ่งบทบาทสำคัญในการสร้างโลกในช่วง 7 ทศวรรษให้หลังที่ผ่านมา
นอกจากนี้ นิทรรศการนี้ยังมีการเน้นย้ำถึงความสำคัญของการออกแบบและงานสถาปัตยกรรม เพราะล้วนมีผลต่อวิธีที่มนุษย์เราใช้สิ่งของต่างๆ และพื้นที่อยู่อาศัย และเพื่อช่วยสร้างโลกทัศน์ให้กว้างขวางขึ้น อีกนัยหนึ่ง ตัวนิทรรศการเองก็เปิดโอกาสให้เกิดการตั้งคำถามเกี่ยวกับสังคมสมัยใหม่ของมนุษย์เช่นกัน
Hong Kong Palace Museum สถานที่สำคัญทางวัฒนธรรมระดับโลก เปิดใหม่บนเกาะฮ่องกง
พิพิธภัณฑ์พระราชวังฮ่องกงถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดของผู้ที่ชื่นชอบศิลปะและวัฒนธรรม และยังเป็นขุมทรัพย์แห่งโบราณวัตถุหายาก โดยเฉพาะคอลเล็กชันเครื่องสังคโลกจีน รวมไปถึงผลงานศิลปะระดับโลกกว่า 900 ชิ้น จากพิพิธภัณฑ์พระราชวังในกรุงปักกิ่ง (Palace Museum in Beijing) หรือที่รู้จักกันดีในนามของ “พระราชวังต้องห้าม” มาจัดแสดง ถือเป็นการส่งมอบครั้งยิ่งใหญ่และมีมูลค่ามากที่สุดที่พิพิธภัณฑ์พระราชวังในกรุงปักกิ่งเคยมอบให้แก่สถาบันทางวัฒนธรรมนอกจีนแผ่นดินใหญ่ตั้งแต่มีมา
นอกจากของล้ำค่ากว่า 900 ชิ้น พิพิธภัณฑ์พระราชวังฮ่องกงยังได้นำเอาผลงานชิ้นเอก 13 ชิ้น จากพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ประเทศฝรั่งเศส มาจัดแสดงด้วย ในฐานะศูนย์กลางแห่งการผสานวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตก เพื่อการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมจากนานาชาติ ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งพิพิธภัณฑ์ที่คุ้มค่าสำหรับ Key Staff ที่ได้โอกาสไปเยี่ยมชมวัตถุหายากที่ไม่ได้เห็นกันได้ง่าย ๆ
และ Hong Kong Palace Museum ยังมีจุดให้ได้ถ่ายภาพกับวิวอ่าววิคทอเรียสวย ๆ อีกด้วย
Hong Kong Disneyland
เติมเต็มความฝันวัยเยาว์ ด้วยการไปเที่ยวสวนสนุก Hong Kong Disneyland เป็นหนึ่งในสวนสนุกในเครือดิสนีย์แลนด์ สวนสนุกชื่อดังระดับโลกและถือเป็นหนึ่งในเช็กลิสต์ที่ไปเที่ยวฮ่องกงและหลงใหลในเวทย์มนตร์ของสวนสนุกดิสนีย์แลนด์เหล่าคณะ Key Staff ก็ไม่พลาดที่จะได้ไปรับความสนุก และเพลิดเพลินไปกับ Hong Kong Disneyland
และที่ขาดไม่ได้ในการมาฮ่องกง คือการไหว้พระเสริมความเฮงกับวัดชื่อดัง เป็นแหล่งรวมสถานที่สำคัญทางศาสนา และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งดึงดูดคนจากทั่วทุกมุมโลก เข้ามาสัมผัสบรรยากาศความขลัง ขอพรให้สมหวังทั้งเรื่องการงาน การเงิน รวมถึงสุขภาพ ซึ่งคณะ Key Staff นั้นได้เดินทางไปสักการะทั้งหมด 3 วัดดัง
เจ้าแม่กวนอิมฮ่องฮำ (Kun Im Temple Hung Hom)
เป็นหนึ่งในวัดที่เก่าแก่ที่สุดของฮ่องกง หรือที่คนรู้จักกันกับวัดที่มีพิธีตามความเชื่อของคนจีนใน ฮ่องกง – มาเก๊า จะมี “วันเปิดทรัพย์“ หรือ ”พิธี ยืมเงิน เจ้าแม่กวนอิมฮ่องกง“ ซึ่งมีเพียงแค่ 1 วัน จัดขึ้นปีละ 1 ครั้งเท่านั้น
วัดแชกงหมิว (Che Kung Temple)
เป็นวัดเล็กๆ ที่เก่าแก่ ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงท่านแชกง นักรบผู้ซึ่งปกป้องจักรพรรดิองค์สุดท้ายแห่งราชวงค์ซ่งให้อยู่รอดปลอดภัย ที่ทางการฮ่องกงได้อนุรักษ์ไว้ให้เป็นโบราณสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของเกาะฮ่องกง โดยวัดแห่งนี้เป็นที่กล่าวขานร่ำลือถึงความศักดิ์สิทธิ์ ว่าสามารถพัดพาสิ่งที่ไม่ดีออกจากตัว และนำความโชคดีเข้ามาในชีวิตได้ จนทำให้ผู้ที่เชื่อถือไม่ว่าจะเป็นคนชาติไหนๆ ต่างพากันหลั่งไหลกันไปขอพรกันไม่ขาดสาย รวมถึงคณะ Key Staff ที่ได้ไปสักการะขอพร หมุนกังหัน พร้อมซื้อเครื่องรางกลับไปมูกันล้นมือ
วัดหวังต้าเซียน (Wong Tai Sin Temple)
วัดหว่องไท่ซิน หรือที่รู้จักกันในชื่อของ วัดหวังต้าเซียน (Wong Tai Sin Temple) หรือที่เราเรียกกันว่า วัดด้ายแดง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวัดดัง ในเรื่องของการไหว้ขอพรองค์เทพเจ้า อีกทั้งอาคารของวัดก็มีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ได้รับอิทธิพลมาจาก ลัทธิเต๋า ศาสนาพุทธ และขงจื้อ ในเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์นั้น คนส่วนใหญ่จะนิยมมาไหว้ขอพรในทุกๆ เรื่อง โดยเฉพาะ เทพเจ้าหยุคโหลว หรือ เทพเจ้าแห่งความรัก ที่เราเรียกกันว่า เทพเจ้าด้ายแดง เป็นพิกัดที่หลายๆ คนมักจะไปขอความรักจากท่านกัน
Symphony of Lights การแสดงโชว์แสงสีเสียงริมอ่าว
การแสดงดนตรีและแสงสีที่เป็นเอกลักษณ์ของฮ่องกง Symphony of Lights นการแสดงดนตรีและแสงมัลติมีเดียระดับโลกที่อ่าววิคตอเรีย เป็นการโชว์แสงสีจากอาคารที่ทันสมัยกว่า 40 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่ภายใต้ทัศนียภาพที่เป็นภูเขา และมีทิวทัศน์ของอ่าววิคตอเรียอันงดงาม เป็นเอกลักษณ์และสีสันอย่างหนึ่งที่คนไปเที่ยวฮ่องกงพลาดไม่ได้
รวมถึงคณะ Key Staff ทั้ง 15 ท่านที่ได้เพลิดเพลินกับการแสดงแสงสีในขณะที่ดื่มด่ำกับทิวทัศน์ยามค่ำคืนอันน่าทึ่งและเส้นขอบฟ้าของฮ่องกง อาคารสำคัญตามแนวชายฝั่งของอ่าววิคตอเรียบนเกาะฮ่องกงจะสว่างไสวด้วยแสงไฟระยิบระยับ เป็นการยิงเลเซอร์ประกอบดนตรี ซาวด์เอฟเฟกต์ และการบรรยายถึงความเจริญรุ่งเรืองของฮ่องกง และก้ไม่พลาดที่จะพลัดกันแชะภาพสวยๆกลับไปกันครบทุกคน
Central Area & Hollywood Road
สตรีทอาร์ท Hollywood Road ย่านเซ็นทรัล (Central) ที่นอกจากจะเป็นศูนย์กลางธุรกิจโดยเฉพาะด้านการเงินแล้ว ที่นี่ยังมีความติส ความฮิปของย่านนี้เกี่ยวกับเรื่องกราฟิตี้และสตรีทอาร์ทอยู่ด้วย ซึ่งสามารถเดินดูความเมือง ดูงานศิลป์ได้เลยบนถนนฮอลลีวูด (Hollywood Road) พร้อมกับการถ่ายภาพชิคๆเป็นเอกลักษณ์ของตึกที่ไม่เหมือนใคร
ร้านเด็ดร้านดังรวมถึงร้านอาหารระดับมิชลินที่เหล่าคณะ Key Staff ได้ลิ้มลองความอร่อย
Mak Man Kee บะหมี่เกี๊ยวฮ่องกง (รางวัลมิชลิน Bib Gourmand 5 ปีซ้อน)
Wing Lai Yuen อาหารจีนสไตล์เซี่ยงไฮ้เสฉวน (รางวัลมิชลิน Bib Gourmand)
Yung Kee (Roasted duck & pork) (รางวัลระดับ Michelin Guide)
ภัตตาคาร Yung Kee ร้านเก่าแก่ มีชื่อมานาน ตั้งแต่สมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ Michelin Guide 8 ปีซ้อน ปัจจุบันอยู่ในระดับ Bib Gourmand เมนูดังได้แก่ ห่านย่าง หมูย่าง เป็ดย่าง (ร้านต้นตำรับของ Kam’s Roast Goose ได้มิชลิน ณ ปัจจุบัน)
Cheung Hing Kee (รางวัลระดับ Michelin Guide)
ซาลาเปาทอดในสไตล์เสี่ยวหลงเปาเจ้าดัง (รางวัลระดับ Michelin Guide) ร้านเด็ดฮ่องกงขึ้นชื่อเรื่องเสี่ยวหลงเปา ทอดแบบจี่ในกะทะพอให้แป้งด้านนอกกรอบเล็กน้อย มีหลายไส้ให้เลือกชิม
Mido Café
ร้านอาหารกึ่งคาเฟ่ กับบรรยากาศเก่าๆ สไตล์ดั้งเดิมของฮ่องกงที่เปิดมานานตั้งแต่ปี 1950 และอยู่ในฉากภาพยนตร์ดังหลายเรื่อง เช่น Moonlight Express, Young and Dangerous หรือแม้กระทั้งซีรีส์ชื่อดังของไทยอย่างเรื่อง เลือกข้นคนจาง ในช่วงยุค 60-70 ที่นี่ได้รับความนิยมมากในหมู่คนรุ่นใหม่ เป็นแหล่งแฮงเอาต์ของคนหนุ่มสาวที่ชอบหยิบหนังสือมาอ่านฆ่าเวลา หรือนัดเดต นัดเมาท์มอยกับเพื่อนฝูง แม้เวลาจะผ่านมาหลายสิบปี Mido Cafe ยังคงได้รับความนิยมไม่เสื่อมคลาย แต่เปลี่ยนบทบาทจากคาเฟ่แห่งยุคมาเป็นคาเฟ่ย้อนยุคฮ่องกงในวันวาน ให้หนุ่มสาวและนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาเสพบรรยากาศ สั่งกาแฟ ถ่ายรูป เติมความหว่องให้สมกับเป็นฮ่องกง ด้วยความเป็นคาเฟ่กึ่งร้านอาหารสไตล์ฝรั่ง เมนูยอดนิยมจึงได้แก่ เฟรนช์โทสต์, ข้าวหมูอบซอสมะเขือเทศนมสด
Dim Dim Sum ติ่มซำนึ่งสดสไตลฮ่องกง
ร้าน “ติ่มซำ” เจ้าดังแห่งหนึ่งของฮ่องกงในโซน Mong Kok และ Jordan ที่มีความโดดเด่นในการนำเสนอเมนูติ่มซำแบบต้นตำรับฮ่องกงที่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพทั้งรสสัมผัสของแป้งและไส้ต่างๆที่ทำออกมาได้เด้งฉ่ำมากๆและความสะใจของความใหญ่ของไส้โดยเฉพาะกุ้งที่ให้มาแบบเต็ม ๆ คำ
Ocean Empire
ร้านโจ๊กฮ่องกงที่ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นร้าน Ocean Empire หรือร้านโจ๊กม่วงที่คนไทยเรียกกัน ไม่ใช่เพราะมีเนื้อโจ๊กเป็นสีม่วง แต่เป็นเพราะร้านนี้ตกแต่งด้วยสีม่วงนั่นเอง ซึ่งทีเด็ดสุดพิเศษของร้านนี้ก็คือโจ๊กฮ่องกงทะเล ที่ขนอาหารทะเลทั้งปู กุ้ง และปลามาไว้ในชามโต ผสมผสานกับเนื้อโจ๊กที่ละเอียดเนียนนุ่ม เข้มข้น รสชาติดี ยิ่งทานก็ยิ่งมีความสุข นอกจากนี้ยังมีอาหารฮ่องกงเด็ดๆ ที่ต้องสั่งมาทานด้วยกัน นั่นก็คือปาท่องโก๋ ก๋วยเตี๋ยวหลอดปาท่องโก๋ และก๋วยเตี๋ยวหลอดกุ้ง
Australia Dairy Company
ร้านอาหารเช้ายอดฮิตในฮ่องกงโดยเมนูที่ไปแล้วต้องสั่งเลยคือ โทสต์ขนมปังไข่ ไข่จะมีกลิ่นน้ำมันหน่อยๆแต่เป็นน้ำมันที่หอมและมีเอกลักษณ์ และอีกเมนูเป็นมักกะโรนีแฮม
Blue bottle cafe
คาเฟ่มินิมอลซึ่งเป็นร้านกาแฟชื่อดังจากอเมริกา ที่มีสาขาทั่วโลก และที่ฮ่องกงมีทั้งหมด 3 สาขา ได้แก่สาขา Wan Chai Café, Central และ IFC Café ซึ่งคณะ Key Staff นั้นได้ไปที่สาขา Wanchai เพราะเป็นสาขาที่ใหญ่และมีถึง 3 ชั้น
Bakehouse
ทาร์ตไข่สุดฮอต Sourdough Egg Tart ร้าน Bakehouse มีหลายสาขาใครอยู่ใกล้สาขาไหนก็เลือกไปได้เลย ไม่ว่าจะเป็นสาขา Central, Wan Chai, Tsim Sha Tsui, Stanley, Causeway Bay
สำหรับร้าน Bakehouse ตอนนี้กำลังฮอตมากๆ ขายดีมากๆ และคิวยาวสุด ๆ ซึ่งเมนูชื่อดังคงจะหนีไม่พ้นคือทาร์ตไข่ แต่ไม่ได้มีแค่ทาร์ตไข่ ยังมีครัวซองต์ โดนัท คุกกี้และขนมอื่นๆ เครื่องดื่มต่างๆ ให้เลือกทานกันอีกเพียบ
Lan Fong Yuen
ร้านชานมฮ่องกง ระดับตำนาน เมนูที่มีชื่อเสียงของที่นี่คือ ชานม กับ เฟรนซ์โทส ขนมปังชุบไข่ทอด ราดด้วยน้ำเชื่อม และเนยสด หวาน หอม มันจากเนยสด เป็นหนึ่งในอาหารท้องถิ่นยอดนิยมของฮ่องกง และไม่พลาดกับหน้าร้านที่เป็นจุดถ่ายภาพชิค ๆ ที่บ่งบอกความเป็นฮ่องกง
มาถึงฮ่องกงทั้งทีคณะ Key Staff ก็ไม่พลาดที่จะได้ลองนั่งรถรางย้อนยุคไปในคริสตศักราช 1920 เป็นรถ 2 ชั้น เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์แบบคลาสสิกของฮ่องกง พร้อมกับเดินงทางไปซื้อ Jenny Bakery Cookies คุกกี้เจ้าดังของฮ่องกง การันตีความอร่อยด้วยแถวที่ยาวเหยียด ที่คณะก็จัดหนักจัดเต็มหิ้วมาเป็นของฝากกันอย่างเต็มไม้เต็มมือ
ขากลับ คณะได้เดินทางด้วย Airport Express รถไฟความเร็วสูงที่ทำให้การเดินทางจากใจกลางเมืองสู่สนามบินฮ่องกง (Hong Kong Airport) เป็นเรื่องง่าย ไม่ต้องห่วงเรื่องจราจรรถติด รถไฟจะคอยบริการคุณทุก 10-12 นาทีและใช้เวลาเดินทางแค่ 24 นาทีเท่านั้น
ภาพบรรยากาศอื่นๆ
ซึ่งในการเดินทางไปทัศนศึกษา ณ ฮ่องกง 4 วัน 3 คืนของ โครงการ DHARMNITI KEY STAFF 2023 นี้เป็นกิจกรรมที่ปิดท้ายโครงการ ซึ่งการเดินทางไปฮ่องกงนั้นนับว่าเป็นสถานที่ที่มีคาแรคเตอร์เมืองโดดเด่น ทางด้านสถาปัตยกรรม ท่ามกลางตึกน้อยใหญ่มากมา ยทำให้ฮ่องกงมีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร และยังมีสิ่งใหม่ ๆ ให้ได้เปิดประสบการณ์ อาทิ สถานที่ท่องเที่ยว วัฒนธรรมทางด้านอาหาร ไลฟ์สไตล์ พิพิธภัณฑ์ ต่างๆ ที่ให้ได้เรียนรู้เพิ่มเติม และไม่ใช่เพียงเท่านั้นเหล่า Key Staff ยังได้มิตรภาพอันดีกับเพื่อนร่วมงานต่างสัดกัดกลับมาอีกด้วย