23 กุมภาพันธ์ 2565
การชุมนุมสาธารณะ คืออะไร ?
การชุมนุมสาธารณะ คือ การชุมนุมของบุคคลในที่สาธารณะเพื่อเรียกร้อง สนับสนุน คัดค้าน หรือแสดงความคิดเห็นต้องเป็นไปโดยสงบและปราศจากอาวุธ
การชุมนุมต้องห้าม ตาม พ.ร.บ.
1.ห้ามจัดการชุมนุมภายในรัศมี 150 เมตร (มาตรา 7)
จากพระบรมมหาราชวัง พระราชวัง วังของพระรัชทายาทหรือของพระบรมวงศ์ตั้งแต่สมเด็จเจ้าฟ้าขึ้นไป พระตำหนักหรือจากที่ซึ่งพระมหากษัตริย์ พระราชินีพระรัชทายาท พระบรมวงศ์ตั้งแต่สมเด็จเจ้าฟ้าขึ้นไป หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ประทับอยู่หรือสถานที่พำนักของพระราชอาคันตุกะ
2.ห้ามจัดการชุมนุมภายในพื้นที่ของรัฐสภา (มาตรา 7)
ทำเนียบรัฐบาล ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลยุติธรรม ศาลปกครอง ศาลทหาและศาลอื่นตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาล เว้นแต่มีการจัดให้มีสถานที่ เพื่อใช้สำหรับการชุมนุมสาธารณะภายในพื้นที่นั้น
3.ห้ามจัดการชุมนุมภายในรัศมีไม่เกิน 50 เมตร (มาตรา 7)
รอบสถานที่ของรัฐสภา ทำเนียบรัฐบาล ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลยุติธรรมศาลปกครอง ศาลทหาร และศาลอื่นตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาล ตามประกาศของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือผู้ได้รับมอบหมายเมื่อได้มีการประกาศห้ามชุมนุมรอบสถานที่ดังกล่าว
4.ห้ามจัดการชุมนุมสาธารณะที่กีดขวางทางเข้าออก (มาตรา 8)
หรือรบกวนการปฏิบัติงานหรือการใช้บริการสถานที่ ดังต่อไปนี้
1. สถานที่ทำการหน่วยงานของรัฐ
2. ท่าอากาศยาน ท่าเรือ สถานีรถไฟ หรือสถานีขนส่งสาธารณะ
3. โรงพยาบาล สถานศึกษา และศาสนสถาน
4. สถานทูตหรือสถานกงสุลของรัฐต่างประเทศ หรือสถานที่ทำการองค์การระหว่างประเทศ
5. สถานที่อื่นตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด
การชุมนุมที่ไม่ได้อยู่ในข้อบังคับ (มาตรา 3)
1. การชุมนุมเนื่องในงานพระราชพิธีและงานรัฐพิธี
2. การชุมนุมเพื่อประกอบพิธีกรรมทางศาสนาหรือกิจกรรมตามประเพณีหรือตามวัฒนธรรมแห่งท้องถิ่น
3. การชุมนุมเพื่อจัดแสดงมหรสพ กีฬา ส่งเสริมการท่องเที่ยว หรือกิจกรรมอื่นเพื่อประโยชน์ทางการค้าของผู้จัดการชุมนุมนั้น
4. การชุมนุมภายในสถานศึกษา
5. การชุมนุมหรือการประชุมตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายหรือการประชุมสัมมนาทางวิชาการของสถานศึกษาหรือหน่วยงานที่มีวัตถุประสงค์ทางวิชาการ
6. การชุมนุมสาธารณะในระหว่างเวลาที่มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินหรือประกาศใช้กฎอัยการศึกและการชุมนุมสาธารณะที่จัดขึ้นเพื่อประโยชน์ในการหาเสียงเลือกตั้งในช่วงเวลาที่มีการเลือกตั้ง แต่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น
การแจ้งการชุมนุมสาธารณะ (มาตรา 10)
การแจ้งในที่นี้ เป็นการแจ้งเพื่อทราบ เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้เตรียมตัวในการอำนวยความสะดวกแก่การชุมนุมและผู้สัญจรผ่านพื้นที่สาธารณะดังกล่าวไม่ใช่การขออนุญาต และเจ้าหน้าที่ไม่อาจปฏิเสธหรือไม่รับแจ้งการชุมนุมได้
ใครมีหน้าที่แจ้ง
ผู้ที่ประสงค์จะจัดการชุมนุมสาธารณะ มีหน้าที่แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแห่งท้องที่ที่มีการชุมนุมหรือบุคคลอื่นตามที่รัฐกำหนด
ระบุจุดประสงค์
แจ้งวัน ระยะเวลา และสถานที่ชุมนุมสาธารณะ โดยจะแจ้งเป็นหนังสือโดยตรง แจ้งทางโทรสารหรือแจ้งทางE-mail ก็ได้
(ตามแบบที่กำหนด)
ต้องแจ้งเมื่อใด
จะต้องแจ้งก่อนเริ่มการชุมนุมไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง
รับหนังสือจากตำรวจ
เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสรุปสาระสำคัญของการชุมนุม และส่งกลับผู้แจ้งภายใน 24 ชั่วโมง หลังแจ้งการชุมนุม
หน้าที่ของเจ้าพนักงานดูแลการชุมนุม (มาตรา 19)
1. อำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะเป็นสถานที่ชุมนุม
2. รักษาความปลอดภัยอำนวยความสะดวก หรือบรรเทาเหตุเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้อื่นซึ่งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับสถานที่ชุมนุม
3. รักษาความปลอดภัยหรืออำนวยความสะดวกแก่ผู้ชุมนุมในสถานที่ชุมนุม
4. อำนวยความสะดวกในการจราจรและการขนส่งสาธารณะในบริเวณที่มีการชุมนุมและบริเวณใกล้เคียง เพื่อให้ประชาชนได้รับผลกระทบจากการชุมนุมน้อยที่สุด
หน้าที่ของผู้ชุมนุม (มาตรา 16)
1. ไม่ก่อให้เกิดความไม่สะดวกแก่ประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะอันเป็นที่ชุมนุมหรือไม่ทําให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อน
2. ไม่ปิดบังหรืออําพรางตนโดยจงใจไม่ให้มีการระบุตัวบุคคลได้ถูกต้องเว้นแต่เป็นการแต่งกายตามปกติประเพณี
3. ไม่พาอาวุธ ดอกไม้เพลิง สิ่งเทียมอาวุธปืน หรือสิ่งที่อาจนํามาใช้ได้อย่างอาวุธ เข้าไปในที่ชุมนุม ไม่ว่าจะได้รับอนุญาตให้มีสิ่งนั้นติดตัวหรือไม่
4. ไม่บุกรุกหรือทําให้เสียหาย ทําลาย หรือทําด้วยประการใด ๆ ให้ใช้การไม่ได้ตามปกติซึ่งทรัพย์สินของผู้อื่น
5. ไม่ทําให้ผู้อื่นกลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน หรือเสรีภาพ
6. ไม่ใช้กําลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กําลังประทุษร้ายผู้เข้าร่วมชุมนุมหรือผู้อื่น
7. ไม่ขัดขวางหรือกระทําการใด ๆ อันเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะในการคุ้มครองความสะดวกของประชาชนในการใช้ที่สาธารณะ และการดูแลการชุมนุมสาธารณะนั้น
8. ไม่เดินขบวนหรือเคลื่อนย้ายการชุมนุมระหว่างเวลา 18.00 น. ถึงเวลา 06.00 น. ของวันรุ่งขึ้น เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะ
9. ปฏิบัติตามเงื่อนไขหรือคําสั่งของเจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะ
หน้าที่ของผู้จัดการชุมนุม (มาตรา 15)
1. ดูแลและรับผิดชอบการชุมนุมสาธารณะให้เป็นไปโดยสงบและปราศจากอาวุธภายใต้ขอบเขตการใช้สิทธิและเสรีภาพตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ
2. ดูแลและรับผิดชอบการชุมนุมสาธารณะไม่ให้เกิดการขัดขวางเกินสมควรต่อประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะ ตลอดจนดูแลและรับผิดชอบให้ ผู้ชุมนุมปฏิบัติตามมาตรา 16
3. แจ้งให้ผู้ชุมนุมทราบถึงหน้าที่ของผู้ชุมนุมตามมาตรา 16 และเงื่อนไขหรือคําสั่งของเจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะ
4. ให้ความร่วมมือแก่เจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะในการดูแลการชุมนุมสาธารณะให้เป็นไปตาม ข้อ 1 และ ข้อ 2
5. ไม่ยุยงส่งเสริมหรือชักจูงผู้ชุมนุมเพื่อให้ผู้ชุมนุมไม่ปฏิบัติตามมาตรา 16
6. ไม่จัดกิจกรรมในการชุมนุมโดยใช้เครื่องขยายเสียงในระหว่างเวลา 24.00 น. ถึงเวลา 06.00 น. ของวันรุ่งขึ้น
7. ไม่ใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกําลังไฟฟ้าที่มีขนาดหรือระดับเสียงตามที่ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติประกาศกําหนด
บทกำหนดโทษ
1.ผู้จัดชุมนุมในพื้นที่และรัศมีที่ห้ามจัด (มาตรา 27)
หรือมีการจัดการชุมนุมกีดขวางทางเข้าออก หรือรบกวนการใช้บริการในสถานที่ทำการหน่วยงานของรัฐ ท่าอากาศยาน ท่าเรือ สถานีรถไฟ หรือสถานีขนส่งสาธารณะ โรงพยาบาล สถานศึกษา ศาสนสถาน สถานทูต หรือสถานกงสุลของรัฐต่างประเทศ หรือสถานที่ทำการขององค์การระหว่างประเทศและสถานที่อื่นตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 7 หรือมาตรา 8
ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือนหรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
2.จัดการชุมนุมโดยไม่แจ้ง (มาตรา 28)
หรือจัดขึ้นภายหลังจากที่ผู้ยื่นคำขอได้รับหนังสือแจ้งว่าไม่มีเหตุผลอันสมควรให้ผ่อนผันกำหนดเวลา หรือเดินขบวนเคลื่อนย้ายการชุมนุมโดยไม่มีการแจ้งว่าจะมีการเดินขบวน หรือไม่เลิกการชุมนุมในเวลาที่แจ้งไว้ ต่อผู้รับแจ้ง ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 10, 12, 17 หรือ 18
ต้องระวางโทษ ปรับไม่เกิน 10,000 บาท
3.ผู้จัดการชุมนุมหรือผู้ชุมนุมที่ฝ่าฝืนคำสั่งห้ามชุมนุม (มาตรา 29)
หรือจัดให้มีการชุมนุมระว่างมีคำสั่งห้ามชุมนุม ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 11
ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
4.ผู้จัดการชุมนุมที่ไม่ดูแลรับผิดชอบการชุมนุมสาธารณให้เป็นไปโดยสงบ (มาตรา 30)
หรือไม่ดูแลผู้ชุมนุม ไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ของผู้จัดการชุมนุม ตามมาตรา 15 (1) (2) หรือ (3) หรือผู้ชุมนุมผู้ใด ไม่ปฏิบัติตามมาตรา 16 (1) หรือ (2)
ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท
6.ผู้ใดไม่ได้รับมอบหมายจากเจ้าพนักงานซึ่งดูแลการชุมนุม (มาตรา 34)
หรือผู้ควบคุมสถานการณ์การชุมนุมให้ปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้พาอาวุธเข้าไปในที่ชุมนุม ไม่ว่าจะได้รับอนุญาตให้มีอาวุธติดตัวหรือไม่
ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ(ถ้าอาวุธนั้นเป็นปืน วัตถุระเบิด หรือวัตถุอื่นใดที่มีสภาพคล้ายคลึงกันผู้กระทำผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ)
ผลวิเคราะห์กระแสในโลกออนไลน์
ในช่วงสถานการณ์โควิดนี้ มาดูกระแสบนโลกออนไลน์กันว่ามีการพูดถึงหรือค้นหา “การชุมนุม” อย่างไร โดยเราใช้เครื่องมือที่มีชื่อว่า Zanroo Search ใช้ในการค้นหา พบว่ามีการพูดถึงกันมากบนโลกออนไลน์ โดยใช้ค้นหาข้อมูล ตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม – 26 สิงหาคม 2563 ช่วงวันที่มีการพูดถึงเรื่องการชุมนุมมากที่สุด คือ ช่วงวันที่ 1-3 สิงหาคม 2563 โดยส่วนใหญ่พูดถึงผ่านช่องทาง Forum & Blog
โดยมีการพูดถึง “การชุมนุม” ทั้งหมด 5 ข้อความ ซึ่งช่องทางที่มีการเคลื่อนไหวมากที่สุดคือ Forum & Blog จำนวน 3 ข้อความ
จะเห็นได้ว่า เนื้อหาที่ได้รับความนิยมและผู้คนมีส่วนร่วมมากที่สุด มาจากช่องทาง Facebook โดยเป็นเรื่องที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการชุมนุมตามวิถีแห่งประชาธิปไตย ซึ่งมีการเข้าชมมากกว่า 1,251 ครั้ง
นอกจากนั้น เครื่องมือ Zanroo ยังสามารถบอกได้อีกว่า แต่ละ Channel ที่มีการพูดถึง “การชุมนุม” นั้น ผู้โพสต์หรือผู้มีส่วนรวม มีความรู้สึกหรือความคิดเห็นอย่างไรบ้าง ซึ่งจากภาพแสดงได้ว่าผู้คนมีการกดไลค์ คอมเมนต์ และมองเห็นเป็นส่วนใหญ่ และยังสามารถดูความรู้สึกได้จาก Emoji ได้อีกด้วย
สุดท้าย ต้องขอขอบคุณสำหรับเครื่องมือ Zanroo Search ที่ช่วยให้การค้นหาข้อมูลและการเปรียบเทียบเพื่อทำการตลาดที่ง่ายขึ้น หากใครที่สนใจสามารถทดลองใช้งานได้ที่ https://www.zanroo.com/