หลักการจัดการ ทรัพย์สินทางปัญญา
ลิขสิทธิ์ (Copyright)
“ลิขสิทธิ์” ได้รับการคุ้มครองภายใต้กฎหมายทันทีที่สร้างสรรค์โดยไม่ต้องจดทะเบียน สิ่งสำคัญที่ผู้สร้างสรรค์ต้องทำเพื่อการบริหารลิขสิทธิ์ของตัวเอง คือการทำ Portfolio เพื่อบันทึกวันที่เริ่มต้นสร้างสรรค์งานดังกล่าว เป็นหลักฐานในการปกป้องสิทธิของตนในงาน
สิทธิบัตร (Patent)
การจดทะเบียนสิทธิบัตรต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบความใหม่และการพัฒนาที่มากขึ้น ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1-5 ปี ผู้ประกอบการจึงอาจใช้วิธีนี้เพื่อคุ้มครองสิ่งประดิษฐ์ คือ
● จดทะเบียนสิ่งประดิษฐ์เป็นแบบอนุสิทธิบัตร แทนการจดสิทธิบัตรการประดิษฐ์
● คุ้มครองแนวคิดการทำงานของสิ่งประดิษฐ์ดังกล่าวด้วยทรัพย์สินทางปัญญาประเภทอื่น เช่น ความลับทางการค้าหรือลิขสิทธิ์
เครื่องหมายการค้า (Trademark)
มีลักษณะต่างจากสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาอื่น คือหากจดทะเบียนจะได้รับการคุ้มครองเต็มตามกฎหมาย โดยเจ้าของเครื่องหมายการค้าต้องระบุชัดเจนว่า จะมีการใช้เครื่องหมายการค้าดังกล่าวกับสินค้าหรือบริการจำพวกใดบ้าง โดยมีระยะเวลาการคุ้มครอง 10 ปี
ความลับทางการค้า (Trade Secret)
หลักสำคัญของการคุ้มครองความลับทางการค้า คือ เจ้าของข้อมูลต้องมีมาตรการในการรักษาความลับของข้อมูล เพราะความลับทางการค้าไม่มีข้อกำหนดการจดทะเบียน และไม่มีการกำหนดเงื่อนไขของข้อมูลที่เป็นความลับเป็นการเฉพาะ เจ้าของข้อมูลจึงใช้กรอบ “ความลับทางการค้า” คุ้มครองแนวคิด การคิดค้น และการออกแบบได้ทั้งหมด