คุณสมบัติคนพิการที่สถานประกอบการจะรับเข้าทำงาน
ต้องเป็นคนพิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการ เนื่องจากต้องใช้สำเนาบัตรประจำตัวคนพิการประกอบการรายงานผลการจ้างงานแก่กรมการจัดหางาน
เงื่อนไขการจ้างงานคนพิการ
สถานประกอบการทั้งเอกชนและหน่วยงานของรัฐ ที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 100 คน ขึ้นไป
ต้องรับคนพิการที่สามารถทำงานทำงานได้ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใดเข้าทำงาน
สัดส่วนของการรับคือ ลูกจ้างที่ไม่ใช่คนพิการ 100 คน ต่อลูกจ้างคนพิการ 1 คน เศษของ 100 ถ้าเกิน 50 คน ต้องรับลูกจ้างคนพิการเพิ่มขึ้นอีก 1 คน เช่น มีลูกจ้าง 151 คน ก็ต้องจ้างคนพิการ 2 คน
- โดยการนับจำนวนลูกจ้างให้นับทุกวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี สถานประกอบการที่มีหน่วยงาน หรือสำนักงานสาขาให้นับรวมลูกจ้างของทุกแห่งเข้าด้วยกัน
จำนวนพนักงาน | จำนวนพนักงานคนพิการ |
1-99 | 0 |
100-149 | 1 |
151-200 | 2 |
สถานประกอบการถ้าไม่รับคนพิการจะต้องดำเนินการอย่างไร ?
ต้องส่งเงินเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการเป็นรายปี ซึ่งเงินที่นำส่งก็คำนวณจากอัตราค่าจ้างต่ำสุดของอัตราค่าจ้างขั้นต่ำตามกฎหมาย คูณด้วย 365 และคูณด้วยจำนวนคนพิการที่ไม่รับเข้าทำงาน
กรณีไม่นำส่งเงินเข้ากองทุนฯ ส่งล่าช้า หรือ ส่งไม่ครบถ้วน
ต้องเสียต้องเบี้ย 7.5 ต่อปีของเงินที่ยังไม่ได้นำส่ง
ทางเลือกสำหรับผู้ประกอบการที่ไม่จ้างงานคนพิการ และไม่นำเงินส่งกองทุน
สามารถสัมปทาน หรือมีการส่งเสริมอาชีพ ซึ่งมูลค่าของสัญญาต้องไม่น้อยว่า 119,720 บาทต่อปี
แบ่งเป็น 7 ประเภทสิทธิ ได้แก่
– การให้สัมปทาน
– จัดสถานที่จำหน่ายสินค้าหรือบริการ
– จัดจ้างเหมาช่วงงานหรือ จ้างเหมาบริการโดยวิธีกรณีพิเศษ
– ฝึกงาน
– จัดให้มีอุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวก
– ล่ามภาษามือ
– การให้ความช่วยเหลืออื่นใดแก่คนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการ
*โดยต้องขออนุญาตจากกรมการจัดหางานก่อนดำเนินการ
สิทธิประโยชน์ทางภาษี
จ้างงานคนพิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการ :
ยกเว้นภาษีได้ 2 เท่า ของรายจ่ายเนื่องจากการจ้างงานคนพิการ
ยกเว้นภาษีได้ 3 เท่า จ้างงานคนพิการเกินกว่า ร้อยละ 60 ของจำนวนพนักงานทั้งหมด และจ้างเกิน 180 วันในปีภาษี หรือระยะเวลาบัญชีที่มีรายได้
ส่งเงินเข้ากองทุน :
ยกเว้นภาษีเท่าจำนวนที่ส่งเงินเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ
จัดสัมปทาน ส่งเสริมอาชีพ :
ยกเว้นภาษีเท่ากับที่มีค่าใช้จ่าย(เฉพาะบางประเภท)