เวลา ในการปฏิบัติตามกฎหมายประกันสังคมของนายจ้างและผู้ประกันตน

23 กรกฎาคม 2563

สาระสำคัญเกี่ยวกับ “เวลา” และ ผลที่เกิดขึ้นหากไม่ปฏิบัติตามเวลาที่กฎหมายประกันสังคมและกฎหมายเงินทดแทน เพื่อย้ำเตือนให้นายจ้าง ลูกจ้าง ผู้ประกันตนระมัดระวังและปฏิบัติอย่างเคร่งครัด

สำหรับเวลาในการในการปฏิบัติตามกฎหมายประกันสังคม ที่นายจ้างและผู้ประกันตน ควรใส่ใจ….ได้แก่

1. เวลาในการยื่นแบบขึ้นทะเบียนนายจ้าง

กองทุนประกันสังคม :

นายจ้างต้องยื่นแบบรายการขึ้นทะเบียนนายจ้างภายใน 30 วันนับแต่มีลูกจ้างเพื่อให้ลูกจ้างที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 15  ปีบริบูรณ์และไม่เกิน 60  ปีบริบูรณ์ ได้เป็นผู้ประกันตน (มาตรา 33 และมาตรา 34)

กองทุนเงินทดแทน :

นายจ้างต้องยื่นแบบรายการขึ้นทะเบียนนายจ้าง ภายใน 30 วันนับแต่วันที่นายจ้างมีหน้าที่ต้องจ่ายเงินสมทบ (ม. 44 วรรคสอง)

 

2. เวลาแจ้งเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงภายหลังจากยื่นแบบขึ้นทะเบียนนายจ้างแล้ว

กองทุนประกันสังคม :

นายจ้างต้องแจ้งเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขเพิ่มเติมรายการ ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดจากเดือนที่มีการเปลี่ยนแปลง (ม. 44 วรรคหนึ่ง)

กองทุนเงินทดแทน :

นายจ้างมีหน้าที่แจ้งเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงหรือแก้ไขเพิ่มเติมรายการ ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดจากเดือนที่มีการเปลี่ยนแปลง (ม. 44 วรรคสาม)

 

3. เวลานำส่งเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมและกองทุนเงินทดแทน

กองทุนประกันสังคม :

นายจ้างมีหน้าที่นำส่งเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมทุกเดือน ทั้งในส่วนของนายจ้างและส่วนของผู้ประกันตนตามมาตรา 33 (ลูกจ้างในสถานประกอบการ) ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดจากเดือนที่นายจ้างหักเงินค่าจ้างของลูกจ้างไว้

กองทุนเงินทดแทน :

นายจ้างต้องจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมปีละ 1 ครั้ง โดยครั้งแรกภายใน 30 วันนับแต่วันที่นายจ้างมีหน้าที่ต้องจ่ายเงินสมทบ (ม.44 วรรคสอง) และในปีถัดไปนายจ้างต้องจ่ายเงินสมทบในเดือนมกราคมของทุกปี

 

4. เวลาในการขอรับเงินคืน ในกรณีที่นายจ้างหรือผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมเกินจำนวนที่ต้องชำระ

กองทุนประกันสังคม :

เช่น ในกรณีที่ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ทำงานกับนายจ้างหลายราย จะต้องขอรับเงินสมทบคืนภายใน 1 ปี นับแต่วันที่นำส่งเงินสมทบ และจะต้องมารับเงินภายใน 1 ปี นับแต่วันที่ได้รับแจ้งให้มารับเงิน (ม.47 วรรคสี่)

กองทุนเงินทดแทน :

เดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี นายจ้างต้องแจ้งจำนวนเงินค่าจ้างของลูกจ้างทั้งหมดของปีที่ล่วงมาแล้ว และเจ้าหน้าที่ได้คำนวณเงินสมทบที่ถูกต้องแล้ว หากมีเงินที่จะต้องคืนให้นายจ้างสำนักงานต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน  30 วัน และนายจ้างสามารถขอคืนได้ หรือจ่ายเป็นเงินสมทบในปีต่อไป

 

5.เวลาในการยื่นคำขอรับประโยชน์ทดแทนจากกองทุนประกันสังคมและกองทุนเงินทดแทน

กองทุนประกันสังคม :

ผู้ประกันตนที่มีสิทธิจะได้รับประโยชน์ทดแทนจากกองทุนประกันสังคมในกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย กรณีคลอดบุตร กรณีทุพพลภาพ กรณีตาย กรณีสงเคราะห์บุตร กรณีชราภาพและกรณีว่างงาน (ยกเว้น ผู้ประกันตนตามมาตรา 39) ต้องยื่นคำขอรับประโยชน์ทดแทนต่อสำนักงานประกันสังคมภายใน 2 ปี นับแต่วันที่มีสิทธิ (เดิม กฎหมายกำหนด 1 ปี ต่อมาได้แก้ไขเป็น 2 ปี
ตามมาตรา 56 กฎหมายประกันสังคม (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2558)

กองทุนเงินทดแทน :

ลูกจ้างที่ประสบอันตราย เจ็บป่วยหรือสูญหาย เนื่องจากการทำงาน ต้องขอรับเงินทดแทน ( คือ เงินที่จ่ายเป็นค่าทดแทน ค่ารักษาพยาบาล ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพในการทำงานและค่าทำศพ) ภายใน 180 วันนับแต่วันที่ประสบอันตราย เจ็บป่วย หรือสูญหาย (คือ การที่ลูกจ้างหายไประหว่างการทำงานเพราะประสบเหตุอันตราย มีเหตุอันควรเชื่อว่าตาย เป็นเวลา 120 วันนับแต่วันเกิดเหตุ)  หรือหากการเจ็บป่วยเกิดหลังสิ้นสภาพการเป็นลูกจ้าง ให้ยื่นคำร้องภายใน 2 ปี นับแต่วันที่ทราบการเจ็บป่วย (ม. 49)

 

ที่มา : จากบทความ  ““เวลา” ในการปฏิบัติตามกฎหมาย…นายจ้างและผู้ประกันตนต้องใส่ใจ”  โดย : ปรานี สุขศรี  วารสาร HR Society Magazine ปีที่ 18 ฉบับที่ 208 เดือนเมษายน 2563

 

Tag

Copyright ©2024  dharmniti.co.th All rights reserved.

Log in with your credentials

Forgot your details?