การเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (MAI) เป็นการสรรหาคัดเลือกบริษัทที่มีศักยภาพเข้ามาจดทะเบียนเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้แก่นักลงทุน
บริษัทที่จะเข้าจดทะเบียน ต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้
• ต้องเป็นบริษัทที่มีประวัติการดำเนินงาน
• มีผลกำไรที่ผ่านมาชัดเจน
• พร้อมกระจายการถือหุ้นให้สาธารณชน
• ต้องมีบริษัทที่ดี มีความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือ
การเป็นบริษัทจดทะเบียนมีประโยชน์ต่อบริษัท ดังนี้
1. การนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ช่วยให้บริษัทสามารถระดมเงินทุนจากประชาชนทั่วไปได้โดยตรง เพื่อนำไปเป็นเงินทุนหมุนเวียนหรือขยายธุรกิจของบริษัทได้โดยไม่มีภาระที่ต้องชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยตามวันเวลาที่กำหนดเหมือนการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน
ข้อดี : ทำให้บริษัทมีความยืดหยุ่นในการบริหารเงินมากขึ้น
2. บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ สามารถระดมทุนเพิ่มเติมเมื่อมีความต้องการใช้เงินเพิ่มขึ้น โดยการออกตราสารทางการเงินประเภทต่าง ๆ ได้ หลากหลายยิ่งขึ้นทั้งตราสารหนี้ ตราสารทุน และตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน เช่น หุ้นสามัญเพิ่มทุน หุ้นกู้ หุ้นกู้แปลงสภาพ ใบสำคัญแสดงสิทธิในการซื้อหลักทรัพย์ เป็นต้น ช่วยให้บริษัทสามารถจัดโครงสร้างทางการเงินที่เหมาะสมต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทได้
ข้อดี : เพิ่มช่องทางระดมทุนเพื่อช่วยในการบริหารเงินอย่างมีประสิทธิภาพ
3. การเป็นบริษัทจดทะเบียนจะช่วยเสริมสร้างความน่าเชื่อถือ และภาพลักษณ์ที่ดีในการบริหารงานและมาตรฐานการดำเนินงานของบริษัทมากขึ้น ผ่านกลไกการเปิดเผยข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งนอกจากจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้สนใจลงทุนในหลักทรัพย์ของบริษัทมากขึ้นแล้ว ยังช่วยสร้างความน่าชื่อถือแก่ลูกค้า คู่ค้า และสถาบันการเงิน นอกจากนี้ยังเป็นการเพิ่มโอกาสทางการค้า การเข้าถึงพันธมิตรและการต่อยอดธุรกิจในอนาคต
ข้อดี : เสริมสร้างชื่อเสียงและภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่บริษัท
4. การให้พนักงานมีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของจะช่วยสร้างความภักดีและความภูมิใจให้แก่พนักงาน ซึ่งนับว่าปัจจัยที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ เพราะตัวพนักงานจะทุ่มเทสร้างความก้าวหน้าให้แก่บริษัท และพนักงานเองยังได้ผลตอบแทนที่ดีจากบริษัทอีกด้วย การเป็นบริษัทจดทะเบียนและมีการเสนอขายหลักทรัพย์ให้แก่กรรมการหรือพนักงานของบริษัท ก็สามารถเปิดโอกาสให้พนักงานมีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของบริษัทได้
ข้อดี : ช่วยสร้างความภักดีและความภูมิใจให้แก่พนักงาน
5. การที่บริษัทจดทะเบียนเปิดเผยข้อมูล ข่าวสาร และความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ผ่านช่องทางและระบบการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารของตลาดหลักทรัพย์ ทำให้บริษัทเป็นที่รู้จักของผู้ลงทุนมากขึ้น และกระตุ้นให้ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนมีการบริหารงานแบบมืออาชีพ เนื่องจากต้องมีความรับผิดชอบต่อผู้ถือหุ้นในวงกว้าง
ข้อดี : สร้างความรับผิดชอบและการบริหารงานแบบมืออาชีพ
6. การเป็นบริษัทจดทะเบียนจะช่วยให้บริษัทที่มีการบริหารงานแบบธุรกิจครอบครัวก้าวเข้าสู่การบริหารงานแบบมืออาชีพมากขึ้น มีผู้บริหารที่เป็นมืออาชีพเข้ามาร่วมบริหารกิจการและเปิดโอกาสให้สมาชิกในครอบครัวของเจ้าของกิจการที่มีเป้าหมายในการดำเนินชีวิตหรือมีความถนัดที่แตกต่างกันไป สามารถเลือกประกอบอาชีพที่ต้องการโดยยังคงมีฐานะเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทและได้รับผลตอบแทนจากการถือหุ้นอยู่เช่นเดิม
ข้อดี : ธุรกิจมีการเติบโตอยู่ต่อเนื่องในระยะยาว
การเป็นบริษัทจดทะเบียนมีประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้น ดังนี้
1. การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ช่วยให้หุ้นที่ถืออยู่ มีสภาพคล่องมากขึ้น เนื่องจากผู้ถือหุ้นสามารถนำหุ้นมาซื้อขายเปลี่ยนมือกันได้โดยง่าย และราคาหุ้นที่ซื้อขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์จะเป็นราคาตลาดที่สะท้อนมูลค่าที่แท้จริงของกิจการ
ข้อดี : เพิ่มสภาพคล่องและสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ถือหุ้น
2. การเปิดเผยข้อมูลและความน่าเชื่อถือจากการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ จะมีส่วนช่วยสร้างความน่าเชื่อถือต่อเจ้าหนี้ของกิจการ อันจะเป็นการเพิ่มอำนาจในการต่อรองของผู้ถือหุ้น หรือกรรมการต่อสถาบันการเงิน ซึ่งอาจช่วยลดภาระการค้ำประกันส่วนบุคคลของผู้ถือหุ้นลงได้
ข้อดี : เพิ่มอำนาจการต่อรองในการลดภาระค้ำประกัน
3. การเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนจะทำให้หุ้นของบริษัทมีสภาพคล่องและมีราคาที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เป็นราคาที่อ้างอิงได้ ทำให้ผู้ถือหุ้นสามารถที่จะนำหุ้นนั้นไปวางเป็นหลักประกันในการกู้ยืมเงินส่วนตัวจากสถาบันการเงินซึ่งจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้แก่ผู้ถือหุ้น
ข้อดี : ใช้หุ้นเป็นหลักประกันในการกู้ยืมเงินได้
4. ผู้ถือหุ้นที่เป็นบุคคลธรรมดาจะได้รับการยกเว้นไม่ต้องนำเงินกำไรที่เกิดจากการขายหลักทรัพย์มาคำนวณเป็นรายได้เพื่อการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ในขณะที่เงินกำไรที่เกิดจากการขายหลักทรัพย์ของบริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จะต้องนำไปรวมคำนวณเป็นรายได้เพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในอัตราก้าวหน้าซึ่งมีขั้นสูงสุดถึงร้อยละ 37
ข้อดี : ผู้ถือหุ้นที่เป็นบุคคลธรรมดาได้รับยกเว้นภาษี