เกษียณแล้ว…ไปต่อ หรือ พอแค่นี้? คำถามที่วนเวียนในหัวของทั้งลูกจ้างและนายจ้าง เมื่อถึงเวลาที่ลูกจ้างอายุครบ 60 ปี บทความนี้จะมาไขข้อสงสัยเกี่ยวกับ “กฎหมายควรรู้” ในการ “ต่อสัญญาลูกจ้างเกษียณ” เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจสิทธิและหน้าที่ของตนเองอย่างถูกต้อง
กรณีลูกจ้างเกษียณปกติ
เมื่อลูกจ้างเกษียณอายุที่ 60 ปี ความเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ของลูกจ้างจะสิ้นสุดลง และเกิดผลดังนี้
(1) นายจ้างต้องจ่ายค่าชดเชยให้ลูกจ้าง
(2) นายจ้างต้องแจ้งการเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงต่อสำนักงานประกันสังคม ภายในวันที่ 15 ของเดือน ถัดจากเดือนที่มีการเปลี่ยนแปลง
(3) เจ้าหน้าที่จะวินิจฉัยประโยชน์ทดแทนต่างๆ ให้แก่ลูกจ้างได้ เช่น เงินชราภาพ เงินว่างงาน
(4) ลูกจ้างมีสิทธิได้รับความคุ้มครองจากกองทุนประกันสังคมต่อไปอีก 6 เดือน
(5) ลูกจ้างมีสิทธิสมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39
กรณีต่อสัญญาจ้าง
แต่ถ้านายจ้างและลูกจ้างตกลงทำงานกันต่อ และพอใจจะจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม จะเกิดผลดังนี้
(1) ลูกจ้างยังไม่มีสิทธิได้รับเงินชดเชยเพราะถือว่านายจ้างยังไม่ได้เลิกจ้าง
(2) นายจ้างไม่ต้องแจ้งเปลี่ยนข้อเท็จจริง ลูกจ้างจึงมีสิทธิเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 ต่อไป
เงื่อนไขสำคัญ
กรณีที่จะต่อสัญญาจ้างอายุเกิน 60 ปี โดยที่ยังคงสิทธิเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 ได้ ต้องเป็นกรณีดังนี้
(1) ลูกจ้างนั้นมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ และยังเป็นลูกจ้างของนายจ้างต่อไป โดยยังไม่สิ้นสุดสัญญาจ้าง
(2) นายจ้างและลูกจ้างตกลงขยายเวลาการจ้างออกไป ก่อนถึงกำหนดที่ลูกจ้างจะเกษียณอายุ 60 ปี
การเข้าใจถึงสิทธิและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการต่อสัญญาลูกจ้างหลังเกษียณ เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ทั้งนายจ้างและลูกจ้างมีความเข้าใจที่ถูกต้องและสามารถวางแผนอนาคตการทำงานได้อย่างมั่นใจ หากทั้งสองฝ่ายตกลงกันได้ดี การทำงานต่อหลังเกษียณก็สามารถเป็นทางเลือกที่ดีในการรักษาสิทธิประกันสังคมและความมั่นคงทางการเงินไปอีกระยะหนึ่ง
อ่านบทความนี้เพิ่มเติมใน
HR Society Magazine ฉบับธันวาคม 2567
กฎหมายควรรู้ต่อสัญญาลูกจ้างเกษียณ
พร้อมบทความที่น่าสนใจ
อ่านบทความอื่นๆ
3 มาตรการจ้างงานแบบประหยัดภาษี
เกษียณอายุแล้วทำอย่างไร มีสิทธิประโยชน์อะไรควรได้รับบ้าง?
ผู้ประกันตน เกษียณ…ขอรับเงินบำนาญ ก่อนสมัครมาตรา 39