11 มีนาคม 2565
1.ลดอัตราเบี้ยปรับจาก 7.5% เหลือ 0.5% ต่อปี
สำหรับใคร ?
ผู้กู้ยืมที่ยังไม่ถูกดำเนินคดีและไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด
ระยะเวลา ?
ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – 31 ธันวาคม 2563
**โดยผู้กู้ยืมไม่ต้องดำเนินการใด ๆ กยศ. จะปรับการคิดเบี้ยปรับให้อัตโนมัติ
2.ลดจำนวนหักเงินเดือนเหลือ 10 บาท / เดือน
ปรับลดการหักจากเงินเดือนเพื่อชำระเงินคืนกองทุนของผู้กู้ยืมทุกรายที่ทำงานในหน่วยงานเอกชน ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – 30 มิถุนายน 2563 โดยผู้กู้ยืมไม่ต้องดำเนินการใด ๆ กยศ. จะปรับการคิดเบี้ยปรับให้อัตโนมัติ
ผู้กู้ยืมกลุ่มปกติ
ผู้กู้ยืมยังคงมีหน้าที่ชำระส่วนต่างเองให้ครบตามจำนวนงวดที่ต้องชำระ ผู้กู้ยืมเงินต้องชำระเงินเพิ่มได้แก่ เบี้ยปรับหรือค่าธรรมเนียมกรณีผิดนัดชำระเงินคืน 0.5 % ต่อปี ของเงินต้นงวดที่ค้างชำระ
ผู้กู้ยืมกลุ่มที่ถูกดำเนินคดี
ยังต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลเหมือนเดิม
3.ลดเบี้ยปรับ 80% สำหรับผู้กู้ยืมทุกกลุ่มที่ค้าง ชำระหนี้ และปิดบัญชีในครั้งเดียว
ผู้กู้ยืมที่ยังไม่ถูกดำเนินคดี
ติดต่อชำระหนี้ที่ธนาคารกรุงไทย หรือธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย
ผู้กู้ยืมถูกดำเนินคดี
ลงทะเบียนขอรับสิทธิได้ที่เว็บไซต์กยศ. โดยผู้กู้ยืมต้องชำระค่าทนายความและค่าธรรมเนียมศาลให้เสร็จสิ้นก่อนชำระหนี้ปิดบัญชี โดยสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2563
**ผู้กู้ยืมเงินที่ลงทะเบียนขอรับสิทธิ สามารถชำระหนี้ปิดบัญชีให้เสร็จสิ้นได้ภายใน 30 ตุลาคม 2563
4.ลดเบี้ยปรับ 75%
สำหรับใคร ?
เฉพาะผู้กู้ยืมที่ยังไม่ถูกดำเนินคดี
ระยะเวลา ?
สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2563
**โดยติดต่อชำระหนี้ที่ธนาคารกรุงไทยหรือธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย
5.พักชำระหนี้
พักชำระหนี้ให้แก่ผู้กู้ยืมที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2 ปี สำหรับผู้กู้ยืมที่มีสถานะยังไม่ถูกดำเนินคดี สามารถลงทะเบียนยื่นคำขอรับสิทธิได้ที่ เว็บไซต์ กยศ. สิ้นสุดวันที่ 31 พฤษภาคม 2563 จัดส่งเอกสารตามที่กำหนด ไม่เกินวันที่ 15 มิถุนายน 2563
ผู้ที่มีงวดชำระเป็นรายปี
ได้รับสิทธิงวดปี 2563 เป็นเวลา 2 ปี นับแต่วันที่กองทุนอนุมัติ โดยจะกลับมาชำระหนี้งวดปี 2563 ภายในวันที่ 5 กรกฎาคม 2565 และงวดที่เหลือในปีถัดไป
ผู้ที่มีงวดชำระเป็นรายเดือน
ให้ผ่อนผันการชำระหนี้ 24 เดือน นับตั้งแต่เดือนถัดไปที่กองทุนอนุมัติ โดยในระหว่างพักชำระหนี้กองทุนจะหยุดคิดดอกเบี้ย หรือค่าธรรมเนียมผิดนัดชำระทั้งงวดที่ค้างชำระก่อนหน้าและงวดที่อยู่ระหว่างผ่อนผัน การชำระ
6. ผ่อนผันการชำระหนี้
สำหรับผู้กู้ยืมที่ครบกำหนดชำระหนี้และไม่เป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้ สามารถยื่นคำขอผ่อนผันและส่งเอกสารหลักฐานไม่น้อยกว่า 60 วัน ก่อนครบกำหนดชำระ
ผู้กู้ยืมที่ไม่มีรายได้หรือมีรายได้ไม่เกิน 8,008 บาทต่อเดือน
ขอผ่อนผันได้คราวละ 1 ปี ไม่เกิน 2 คราว นับจากวันที่ได้รับอนุมัติ ซึ่งในช่วงเวลาที่ได้รับการผ่อนผัน ผู้กู้ยืมไม่ต้องชำระหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย รวมถึงยกเว้นเบี้ยปรับ
ผู้กู้ยืมที่มีรายได้ถดถอย
ขอผ่อนผันให้ขยายระยะเวลาการชำระหนี้ได้ตั้งแต่ 1.5 – 2.5 เท่าของระยะเวลาที่เหลืออยู่ตามสัญญากู้ยืมเดิม ในการชำระเงินงวดสุดท้ายผู้กู้ยืมต้องมีอายุ ไม่เกิน 60 ปี
7. งดการขายทอดตลาด
กองทุนจะยื่นคำร้องของดการขายทอดตลาดทุกราย ไปจนถึงสิ้นปี 2563 โดยจะต้องได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากผู้กู้ยืม หรือผู้ค้ำประกันที่ถูกยึดทรัพย์ ผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วม ผู้รับจำนองที่ยึดไว้ เป็นต้น
สำหรับใคร
ผู้กู้ยืม หรือผู้ค้ำประกันที่กองทุนได้ดำเนินการยึดทรัพย์และขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการขายทอดตลาด
8. ชะลอการบังคับคดี
กองทุนจะชะลอการบังคับคดีกับผู้กู้ยืมเงิน และผู้ค้ำประกันตามคำพิพากษา เว้นแต่กรณีที่การบังคับคดีใกล้พ้นระยะเวลาการบังคับคดียังคงต้องดำเนินการบังคับคดีไปตามปกติ